นครสวรรค์/อุทัยธานี - ระดับน้ำต้นเจ้าพระยา ไหลผ่านสถานี C2 เมืองปากน้ำโพ ยืนระดับเหนือ 2 พัน ลบ.ม./วินาที หลายวัน ล่าสุดเอ่อล้นชุมชนริมฝั่ง ต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนทางรถไฟเก่ากว่า 150 ครอบครัวแล้ว ส่วนที่อุทัยฯ มีบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรชาวบ้านถูกน้ำท่วมหลายหมู่บ้าน
วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมวลน้ำจากจังหวัดทางภาคเหนือ ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดนครสวรรค์ จนมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C2 กว่า 2 พันลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อเนื่องหลายวัน และได้เอ่อล้นท่วมชุมชนบ้านบางปรอง ต.นครสวรรค์ออก อ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งมีประชาชนอาศัยริมน้ำเจ้าพระยา เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่บ่ายวานนี้ (8 ต.ค.)
นายพเชษฐ์ สายประเสริฐ ประธานชุมชนบ้านบางปรอง เปิดเผยว่า ระดับแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้ประกาศเตือนประชาชนให้รีบขนของขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน ในเบื้องต้น มีชาวบ้าน 150 หลังคาเรือน ต้องขึ้นมาอาศัยบนทางรถไฟเก่า ที่ไม่ใช้มานานกว่า 20 ปีแทน ที่เหลือก็ต้องทยอยขนของขึ้นเก็บที่สูงเพื่อความปลอดภัยต่อไป
ขณะเดียวกัน น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.เมืองอุทัยธานี เอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน และนาข้าว พืชผักทั้งข้าวโพดหวาน มะระจีน แตงกวา ถั่วฝักยาว ได้รับความเสียหานเป็นบริเวณกว้าง
โดยพื้นที่ที่ได้รับความผลกระทบจากปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วม ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้านท่าตาโป้ย หมู่ที่ 6 บ้านวัดราษฎ์ ต.ท่าซุง และบ้านเกาะเทโพ หมู่ที่ 6 ต.เกาะเทโพ อ.เมืองอุทัยฯ ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงรวมกว่า 130 หลังคาเรือน พื้นที่นาข้าวที่ใกล้จะเก็บเกี่ยว พืชผัก และพืชสวนกว่า 500 ไร่ ได้รับความเสียหาย
ซึ่งขณะนี้ผู้นำชุมชนได้ระดมชาวบ้านของหมู่บ้านตนเองช่วยกันกรอกกระสอบทรายไปเรียงเป็นพนังกั้นน้ำไม่ให้ท่วมถนน เพื่อที่จะใช้สัญจรได้ แต่กระสอบทรายมีไม่พอ ต้องการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือจากการบริจาคอย่างเร่งดวน
ส่วนหมู่บ้านอื่นในพื้นที่ 2 ตำบลดังกล่าวที่น้ำยังท่วมไม่ถึง ชาวบ้านต่างผวากลัวน้ำจะท่วมเหมือนปี 2554 ต่างนำเรือพายที่เก็บไว้หลังจากน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ออกมาซ่อมแซม เพื่อเตรียมไว้ใช้เป็นพาหนะเดินทางเข้าออกหมู่บ้านหากถูกน้ำท่วม