ขอนแก่น - ผู้ประกอบการขนส่งภาคกลางและอีสานโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความจับบริษัทรับเหมาก่อสร้างชื่อดังขอนแก่น หลังเบี้ยวจ่ายค่าจ้างนานกว่า 4 เดือน ร่วม 12 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (5 ต.ค.) ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมกว่า 20 รายเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.คำมูล สีสะอาด รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีต่อ บริษัทนิลธาร จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 167/10-11 ถ.แก่นตูมประชาราษฎร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างขนส่งหินและยางมะตอย ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ส.ค.
โดยกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมดได้มีการนำป้ายที่มีข้อความว่า “ตำรวจช่วยด้วย เสี่ยอ้วนมันโกง เราอยากได้เงินค่าบรรทุกของพวกเรา” มาแสดงเพื่อเรียกร้องถึงความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในขณะนี้ผู้ประกอบการรถบรรทุกได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
นายชลวิทย์ เชื้อสกุลวนิช อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.9 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งในหลายจังหวัดของภาคอีสานและกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบนที่ตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อผู้บริหารบริษัท นิลธาร จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ จ.ขอนแก่น หลังบ่ายเบี่ยงและเพิกเฉยต่อการจ่ายเงินค่าจ้างขนส่งมาตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยการแจ้งความครั้งนี้ได้มีการนำใบส่งของและเอกสารการจ้างงานจาก บริษัท นิลธาร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่มีการทำสัญญาก่อสร้างและซ่อมแซมถนนหลวงของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท
จากนั้นบริษัทฯ ได้มีการว่าจ้างผู้ประกอบการขนส่งในภาคอีสานไม่น้อยกว่า 10 บริษัท ให้รับจ้างขนหินและยางมะตอยไปส่งตามหน้างาน ทั้งในเขต จ.ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, หนองคาย, อุดรธานี, อุบลราชธานี และ จ.เลย ตามแต่สัญญาจะตกลงกัน จนกระทั่งในระยะหลังคือตั้งแต่ เม.ย.ที่ผ่านมาบริษัทฯ เริ่มไม่จ่ายเงินค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผล และไม่มีการติดต่อใดๆ เกิดขึ้น
“เฉพาะช่วงเดือน เม.ย.-ส.ค.มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่รับจ้างขนส่งให้กับบริษัท นิธารฯ ที่ยังไม่รับเงินค่าจ้างจำนวนมาก เฉพาะที่เดินทางมาแจ้งความตำรวจขอนแก่นวันนี้รวมทั้งหมด 10 บริษัท ซึ่งยังคงไม่ได้รับเงินค่าจ้างรวมกว่า 12 ล้านบาท สูงสุดอยู่ที่รายละ 2.35 ล้านบาท และต่ำสุดอยู่ที่รายละ 1 ล้านบาท ซึ่งของผมก็ยังไม่ได้รับค่าจ้าง 1 ล้านบาทด้วย ที่ผ่านมาหลายบริษัทได้มีการติดต่อไปยังเจ้าของบริษัทฯ หรือผู้จัดการบริษัทฯ ก็ถูกตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง บางทีติดต่อไม่ได้
และเมื่อไปพบที่สำนักงานใหญ่ที่ขอนแก่น ก็พบว่าไม่สามารถเข้าพบผู้บริหารเพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมากคล้ายกับการพยายามฉ้อโกงพวกเรา ซึ่งเมื่อมีการจ้างงานและเงินไม่ได้รับ ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างพวกผมก็ลำบาก เงินหมุนเวียนก็สะดุด ต้องดูแลทีมงานหลายสิบชีวิต จึงขอความเป็นธรรมต่อตำรวจเพื่อให้คลายความเดือดร้อนให้ประชาชนด้วย”
นายชลวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เพชรบูรณ์แล้ว ซึ่งได้มีการส่งเรื่องที่ศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดพบกันของทุกฝ่าย บริษัทฯ ไม่มีการส่งคนเข้ามาทำหน้าที่มาตามการนัดหมาย
ดังนั้น วันนี้ผู้ประกอบการขนส่งซึ่งแทบจะไม่มีเงินดูแลทีมงานแล้วขอหวังพึ่งบารมีตำรวจ และทหาร เพื่อให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ในการให้ความเป็นธรรมและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพอย่างสุจริตและถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับมาถูกนายทุนใหญ่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่นกระทำการในลักษณะเช่นนี้
ด้าน พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า จะมีการเรียกสอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งจะมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป