รวบหนุ่ม รปภ.คลั่งไสยศาสตร์! ตระเวนทุบรูปปั้นสัตว์มงคลเมืองบุรีรัมย์ ยันไม่เกี่ยวทุบเจดีย์ “ปอ”

บุรีรัมย์ - ตร.บุรีรัมย์ รวบแล้ว หนุ่มอดีต รปภ.คลั่งไสยศาสตร์ ตระเวนทุบทำลายรูปปั้นสัตว์มงคลในศาลหลักเมือง และรูปหล่อทองเหลือง 12 นักษัตร ในสวนรมย์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบุรีรัมย์เคารพศรัทธา อ้างทำตามความเชื่อจะได้ขึ้นสวรรค์โดยใช้พลังลมปราณที่ฝึกมา ขณะ ผบก.ยันไม่เกี่ยวเหตุทุบเจดีย์ “ปอ ทฤษฎี” เพราะอาวุธที่ใช้ก่อเหตุแตกต่างกัน

วันนี้ (4 ต.ค.) พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล สารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบภูธรจังหวัด และชุดสืบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ควบคุมตัว นายชินกร คำคง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 292 ม.10 บ.สี่เหลี่ยม ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ อดีต รปภ.บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาก่อเหตุตระเวนทุบทำลายรูปปั้นสัตว์มงคลภายในศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ เช่น รูปปั้นมังกร เสือ ข้างศาลปึงเถ่ากงม่า แท่นหินแกะสลักรูปมังกรที่ทำพิธีไหว้เทพฟ้าดิน ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบุรีรัมย์เคารพบูชา

พร้อมทั้งได้ทุบทำลายรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม และรูปหล่อทองเหลือง 12 นักษัตร หรือ 12 ราศี ที่ก่อสร้างไว้ภายในสวนสาธารณะข้างคลองละลมโบราณ ได้รับความเสียหาย เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสามารถติดตามจับกุมได้ขณะเดินอยู่บริเวณริมถนนสายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ ระหว่างบ้านไทรโยง ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์

หลังได้สืบสวนแกะรอยติดตามพฤติกรรมมานาน พบว่า มีพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง เช่น ทุบรูปสัตว์มงคลตามศาลเจ้า หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามวัด หมู่บ้านเสียหาย เนื่องจาก นายชินกร เป็นคนคลั่งไคล์ทางไสยศาสตร์ และชอบอ่านตำราศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติ

จากการสอบถาม นายชินกร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุทุบทำลายรูปปั้นสัตว์มงคล ทั้งที่ศาลหลักเมือง และสวนรมย์บุรีจริง โดยอ้างว่าใช้พลังลมปราณ หรืออิทธิฤทธิ์ที่ฝึกฝนมาด้วยมือเปล่า ไม่ได้ใช้อุปกรณ์อาวุธอย่างอื่น

ทั้งอ้างว่าที่ทำเพราะต้องการทำลายสิ่งที่เชื่อว่ามีอิทธิฤทธิ์แกร่งกล้าเหนือตัวเอง หากทำลายได้จะมีผลแตกต่างกัน เช่น หากทำลายมังกร ก็จะได้ขึ้นสวรรค์ และยังบอกด้วยว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนหลุดโลก หรือไร้สาระ แต่ทำไปตามความเชื่อที่ได้ศึกษามา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายชินกร ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นทรัพย์สาธารณประโยชน์” มีโทษกว่าการทำลายทรัพย์สินสถานที่อื่น และข้อหา “ใช้สารระเหยเพื่อบำบัดความต้องการของร่างกายหรือจิตใจ (ทินเนอร์)”

พร้อมทั้งจะได้ส่งตัวไปให้แพทย์ หรือนักจิตวิทยาตรวจสภาพจิตว่ามีความผิดปกติทางจิต หรือมีประวัติการรักษาอาการทางจิตหรือไม่

ด้าน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ระบุว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทุบทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 จุด เนื่องจากคลั่งไสยศาสตร์ หรือสิ่งที่เหนือธรรมชาติตามความเชื่อที่ตัวเองศึกษามา ไม่เกี่ยวข้องต่อผู้ที่ก่อเหตุทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิ ของ นายทฤษฎี สหวงษ์ หรือปอ ทฤษฎี ที่วัดธรรมธีราราม ก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นคนละคนมากกว่า เพราะลักษณะการใช้อาวุธในการก่อเหตุไม่เหมือนกัน โดยเจดีย์ปอ ผู้ก่อเหตุจะใช้เหล็กแหลมเป็นอาวุธ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจติดตาม