บุรีรัมย์ - ผู้ค้าสลากฯ รายย่อยทั้งใน จ.บุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงยังเดือดร้อน ต้องขนเสื่อ ผ้าห่ม มุ้งครอบกันยุง และเต็นท์มากางนอนหน้าธนาคารกรุงไทยและตู้เอทีเอ็ม เพื่อรอคิวซื้อและจองสลากฯ ข้ามวันข้ามคืนมานานกว่า 1 ปี แต่บางงวดไม่ได้ต้องยอมไปซื้อยี่ปั๊วในราคาสูงมาขาย วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาจัดสรรสลากฯ ให้ผู้ที่มีรายชื่อในระบบ
วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อยจากหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.สุรินทร์ และ จ.มหาสารคาม ยังคงเดือดร้อนต้องขนเสื่อ หมอน ผ้าห่ม มุ้งครอบกันยุง และเต็นท์มากางนอนหน้าธนาคารกรุงไทย ทั้งสาขาบุรีรัมย์ สาขาถนนธานี และตู้เอทีเอ็ม ที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ข้ามวันข้ามคืนเพื่อรอคิวในการซื้อและจองสลากฯ ไปขาย
ผู้ค้ารายย่อยที่มานอนรอต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องมานอนรอจองซื้อสลากฯ ด้วยความลำบาก ทั้งหน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว มานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่หลายงวดซื้อและจองสลากฯ ไม่ทันทำให้ไม่ได้สลากฯ ไปขาย แต่บางรายยอมลงทุนไปซื้อสลากฯ ต่อจากยี่ปั๊วมาขายต่อ แม้มีต้นทุนสูงถึงใบละ 76-78 บาท แต่หากซื้อตรงจากกองสลากจะมีราคาเพียงใบละ 70.4 บาทเท่านั้น เนื่องจากไม่มีอาชีพอื่นรองรับ
จากปัญหาดังกล่าวผู้ค้าสลากฯ รายย่อยจึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา โดยการจัดสรรสลากฯ ให้ผู้ที่มีรายชื่อหรือลงทะเบียนไว้ในระบบโดยตรงอยู่แล้ว ทั้งลดโควตาของยี่ปั๊วไปจัดสรรให้ผู้ค้าสลากฯ โดยตรง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ค้ารายย่อย จะได้ไม่ต้องมาลำบากนอนรอจองซื้อสลากฯ ข้ามวันข้ามคืนทุกงวดแบบนี้
นางบัวผัน กระแสโท อายุ 46 ปี และนางประภา สีสุราช อายุ 32 ปี ผู้ค้าสลากฯ รายย่อย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ที่ผ่านมาต้องลำบากหอบหมอน มุ้ง มานอนรอจองซื้อสลากฯ ข้ามวันข้ามคืนทุกงวด แต่บางงวดไม่ได้สลากฯ ไปขาย เพราะมีคนมารอจองเป็นจำนวนมาก และหลังจากมีการเปลี่ยนให้ซื้อ และจองสลากฯ เป็นคนละวันโอกาสในการได้คิวซื้อและจองสลากฯ ลดลง และต้องมานอนรอหลายคืนมากกว่าเดิมซึ่งต้องเดือดร้อนแบบนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว
จึงอยากร้องขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา โดยการจัดสรรสลากฯ ให้กับผู้ที่มีรายชื่อลงทะเบียนไว้ในระบบโดยตรงจะได้ไม่ต้องมานอนรอซื้อและจองสลากฯ ข้ามวันข้ามคืนแบบนี้อีก