“น้ำชี” ทะลักท่วมสำนักสงฆ์ชัยภูมิ พระเณรขนของหนีอลหม่าน-กุฏิจมไร้ที่พัก

ชัยภูมิ - น้ำชีทะลักท่วมสำนักสงฆ์ที่ อ.เนินสง่า ชัยภูมิ พระเณรเด็กวัดขนของหนีน้ำอลหม่านเดือดร้อน กุฏิจมไร้ที่พักอาศัยกว่า 20 รูป และออกบิณฑบาตไม่ได้ ด้าน อ.แก้งคร้อ น้ำจากเทือกเขาภูแลนคาซัดถนนขาด คอสะพานทรุด สัญจรไม่ได้หลายแห่งและจมพื้นที่การเกษตรรวมกว่า 10 ตำบล พร้อมเร่งอพยพผู้สูงอายุคนป่วยพิการออกจากพื้นที่

วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ชัยภูมิ จากปริมาณน้ำในลำน้ำชีล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและไร่นาประชาชนได้รับความเดือดร้อนนั้น ยังส่งผลกระทบในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่บ้านท่าหว้า ม.8 ต.กะฮาต อ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ น้ำชีได้เอ่อล้นเข้าท่วมสำนักสงฆ์ประชาศรัทธาธรรม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พระสงฆ์ สามเณร และเด็กวัดต้องพากันขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันอลหม่านทำให้พระสงฆ์และสามเณรกว่า 20 รูปเดือดร้อนไม่มีกุฏิพักอาศัย และไม่สามารถออกบิณฑบาตปฏิบัติกิจของสงฆ์ได้

พระวันชัย ยโสธโร หัวหน้าสำนักสงฆ์ประชาศรัทธาธรรม และพระอุดม วสันโน พระประจำสำนักสงฆ์ เล่าให้ฟังว่า สำนักสงฆ์ประชาศรัทธาธรรมมีพระและเณรรวมทั้งเด็กวัดอยู่ร่วมกันกว่า 20 ชีวิต เพื่อเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมและได้ส่งพระเณรในชุมชนไปเรียนหนังสือในตัวเมืองมานานหลายสิบปีแล้วจึงมีพระเณรสนใจมาบวชเรียนที่นี่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีกุฏิอยู่ 6 หลังให้พระเณรเด็กวัดได้นอน แต่ถูกน้ำชีทะลักเข้าท่วมทั้งหมดตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา

ขณะที่ อ.แก้งคร้อ น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคาได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ทั้งนาข้าว ไร่อ้อย บ่อปลา กว่า 10 ตำบล รวมหลายพันไร่ และ มีถนนหลายสายถูกกระแสน้ำกัดเซาะขาด คอสะพานชำรุดเสียหาย ทำให้เส้นทางถูกตัดขาดสัญจรเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้หลายแห่ง และทางอำเภอได้สั่งให้ทุกพื้นที่นำป้ายไปติดแจ้งเตือนประชาชนห้ามปล่อยบุตรหลานลงเล่นน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด พร้อมให้อพยพผู้สูงอายุคนป่วยพิการออกจากพื้นที่น้ำท่วม

นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล นายอำเภอแก้งคร้อ เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุม ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ลำน้ำชีเอ่อล้นตลิ่ง ตลอด 24 ชั่วโมง สาเหตุที่น้ำท่วมพื้นที่ อ.แก้งคร้อ เนื่องจากมีมวลน้ำก้อนใหญ่ไหลมาจากเขต อ.ภูเขียว และส่วนหนึ่งน้ำจากเทือกเขาภูแลนคาไหลลงลำน้ำชีและลำห้วยสาขาต่างๆ เต็มทุกลำห้วยจนไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชนจำนวนมาก กว่า 10 ตำบล และมีถนนทางเข้าหมู่บ้านสัญจรไม่ได้หลายสาย และคอสะพานหลายแห่งชำรุด ซึ่งได้ประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินแก้ไขเป็นการด่วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกลงมาอีก ระดับน้ำท่วมจะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 2-3 วันนี้ ซึ่งได้สั่งการให้ อปท.ในพื้นที่เร่งออกสำรวจความเสียหายในแต่ละตำบล โดยเฉพาะพื้นที่ด้านการเกษตรเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป