xs
xsm
sm
md
lg

สาวเมืองโอ่งโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยเพื่อนหญิง หลังเกือบตกเป็นเหยื่อโจรหื่นที่ใต้สะพานโคกหม้อ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ราชบุรี - สาวเมืองโอ่งตัดสินใจโพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์นาทีระทึกเอาตัวรอดจากโจรหื่นลงในเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัยหญิงสาว หลังตนเองเกือบตกเป็นเหยื่อโจรข่มขืนที่บริเวณอุโมงค์ลอดใต้สะพาน หรือสะพานโคกหม้อ เมืองราชบุรี จนต้องตัดสินใจช่วงจังหวะโจรเผลอวิ่งแก้ผ้าหนีร้องให้คนช่วย พร้อมเข้าพบตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานราชบุรี สเกตช์ภาพล่าคนร้าย



เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (28 ก.ย.) น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดราชบุรี เพื่อสเกตช์ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ และบังคับตนเองให้เปลื้องผ้าเพื่อหมายจะข่มขืน แต่ น.ส.พร ตั้งสติอาศัยจังหวะที่คนร้ายออกไปขยับรถแล้ววิ่งหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองจนรอดมาได้ โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่บริเวณอุโมงค์ลอดใต้สะพาน หรือสะพานโคกหม้อ หมู่ 3 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างความหวาดผวาให้แก่ผู้ใช้รถที่จำเป็นต้องสัญจรด้วยเส้นทางดังกล่าวอย่างมาก โดยเฉพาะหญิงสาว และหลังเกิดเหตุ น.ส.พร ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กเพื่อเตือนภัยให้แก่หญิงสาวรายอื่นๆ ให้ระมัดระวังตัวด้วย

น.ส.พร เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองราชบุรีได้ไม่นาน และในวันเกิดเหตุเป็นวันแรกที่ตนขับรถจักรยานยนต์มาทำงาน พอเลิกในช่วงเวลาประมาณ 00.45 น.ได้ขับรถกลับบ้าน โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่เช่าไว้แถวปากทางเข้า ต.พิกุลทอง และได้ขับลอดอุโมงค์ใต้สะพานที่ค่อนข้างแคบและเปลี่ยว

จังหวะที่ตนขับรถลงอุโมงค์ จู่ๆ ก็มีคนร้ายอายุประมาณ 30 ปี ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิกออโตเมติก สีดำ มาชนท้ายตนที่ใต้สะพาน ตนจึงได่หยุดรถด้วยความตกใจ จังหวะนั้นคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์มาประกบด้านขวาของรถตน แล้วทำการกระชากกระเป๋าพร้อมกับดึงกุญแจรถของตนก่อนจะขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนเองยังอยู่ในอาการหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้รีบวิ่งหนีออกมาจากใต้สะพานอีกฝั่งหนึ่ง

เมื่อตนเห็นว่าคนร้ายน่าจะหนีไปแล้วจึงได้กลับไปเพื่อดูรถด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเป็นรถที่ตนยืมคนอื่นมา แต่จู่ๆ ไม่คาดฝันเมื่อคนร้ายขับรถย้อนกลับมาแล้วขับรถจอดขวางทางตนไว้ พร้อมฉุดร่างของตนลากไปที่บริเวณหลังกำแพงเสาใต้สะพานที่เป็นจุดอับลับตาคน จากนั้นคนร้ายได้ใช้มือมาล็อกที่คอของตน และกดร่างของตนลงกับพื้น และคนร้ายได้พูดกับตนว่า “ให้กูทีหนึ่งก่อนแล้วกูจะให้มึงคืนทุกอย่าง” จากนั้นคนร้ายคนดังกล่าวจับตนถอดเสื้อผ้าออกหมดจนเปลือยเปล่า ก่อนจะบอกว่า “รออยู่ตรงนี้เดี๋ยวกูเอารถไปเก็บก่อน เดี๋ยวกูมา” ซึ่งคนร้ายกลัวว่าตนจะหนีจึงได้หอบเอาเสื้อผ้าของตนไปด้วย ก่อนเดินไปเพื่อจะขยับรถที่จอดขวางทางไว้ และกลัวคนมาเห็น

ในวินาทีนั้นตนตั้งสติได้จึงตัดสินใจวิ่งหนีทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าออกมาร้องขอความช่วยเหลือ โดยวิ่งข้ามไปยังเกาะกลางถนนพร้อมกับโบกรถให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีใครจอด กระทั่งมีพลเมืองดีขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน ตนรีบบอกให้ช่วยขับรถตามรถของคนร้ายไป แต่ก็ไม่รู้ว่าตามเจอหรือไม่ เนื่องจากคนร้ายรีบขับรถหนีไปในซอยเปลี่ยวขาเข้าเมืองราชบุรี ก่อนที่ตนจะวิ่งข้ามฝั่งไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานในปั๊มน้ำมัน ซึ่งตอนแรกยังไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือ ตนต้องร้องบอกไปว่าตนเป็นคนสติดี ไม่ใช่คนร้ายขอเสื้อผ้าอะไรก็ได้ให้ตนมาใส่ปิดร่างกายด้วย ก่อนที่ตนจะหนีเข้าไปหลบอยู่ในมุมมืดของปั๊ม และพนักงานในปั๊มก็นำเสื้อผ้ามาให้ ซึ่งเมื่อตนได้เสื้อผ้าใส่แล้วก็รีบโทร.ให้แม่มารับกลับบ้าน ก่อนเดินทางไปแจ้งความยังสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เพื่อให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายทันที โดยมี พ.ต.ต.วินัย ลายละเอียด เป็นเจ้าของคดีนี้

หลังจากตนเข้าแจ้งความแล้วเกรงว่าเรื่องจะเงียบ และไม่อยากให้ใครต้องมาตกเป็นเหยื่อเหมือนตน โดยอยากให้ตนเป็นรายสุดท้าย ซึ่งการที่ตนกล้าที่จะวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือคิดว่าดีกว่าตนถูกจี้แล้วยังจะมาถูกข่มขืนแล้วก็ไม่รู้ว่าจะถูกข่มขืนแล้วฆ่าหรือเปล่า ประกอบกับตนมีลูกต้องเลี้ยงดูอีกถึง 3 คน จึงได้นำเรื่องไปโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยหญิงสาวรายอื่นๆ ด้วย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งด่านคอยตรวจตราเหมือนเมื่อก่อนที่เคยปฏิบัติมาเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้

ด้าน นายทองคำ ทองแท้ อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 3 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้อุโมงค์ใต้สะพานที่เกิดเหตุ ที่ผ่านมา มักจะมีเหตุจี้ชิงทรัพย์บ่อย แต่เว้นมา 2-3 เดือน กระทั่งมาครั้งนี้ทราบว่ามีหญิงสาวถูกจี้ และเกือบถูกข่มขืนด้วย เห็นว่าบริเวณดังกล่าวเวลากลางคืนจะเปลี่ยวมากจึงค่อนข้างอันตราย

อย่างไรก็ดี ทราบว่าก่อนหน้านี้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ มีเหตุหญิงสาวถูกจี้ และคนร้ายหมายจะข่มขืนในลักษณะเดียวกัน และหลบหนีออกมาได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบอุโมงค์ลอดใต้สะพานที่เกิดเหตุ พบว่า ทางลงค่อนข้างแคบ และชันมาก เมื่อรถลงไปแล้วจะกลับตัวขึ้นมาค่อนข้างยาก โดยเฉพาะมีกำแพงใต้สะพานที่ทึบลับตาคน และไม่มีกล้องวงจรปิดที่จะบันทึกภาพหากเกิดเหตุร้าย แต่มีการนำหลอดไฟนีออนมาติดตั้งเพิ่มพร้อมกระจกส่องทางมาติดตั้งตรงทางโค้งอุโมงค์ใต้สะพานไว้แล้ว

ส่วนเรื่องความคืบหน้าของคดีนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้เสียหายไปสเกตช์ภาพคนร้ายก่อนจะกระจายไล่ล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น