ลำพูน - เกิดอุบัติเหตุรถเก๋ง ชน 6 ล้อบรรทุกข้าวโพดสนั่นทางแยกป่าซาง เมืองเจ้าแม่จามเทวี กลางดึก ก่อนคนขับรถบรรทุกจะบึ่งหนีทันที แต่ถังน้ำมันหลุดไปไม่ได้ไกล ขณะที่ 4 สาวในเก๋งเจ็บ อาการสาหัส 1 ราย
วันนี้(27 ก.ย.) ร.ต.ท.ธนกฤษ ติ๊บเหล็ก พนักงานสอบสวนเวร สภ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถบรรทุก 6 ล้อกลางสี่แยกสะปุ๋ง ถนนลำพูน-ลี้ ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง มีผู้บาดเจ็บจำนวน 4 รายและติดอยู่ในรถเก๋งส่วนรถบรรทุกขับหลบหนีไปเมื่อเวลาประมาณ 00.40 น.เศษที่ผ่านมา จึงวิทยุแจ้ง สภ.เหมือง
จากนั้นจึงเดินทางไปสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสะปุ๋ง สายตรวจ 20 กู้ชีพกู้ภัยเทศบาลม่วงน้อย เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ชีพกู้ภัยลำพูน รถกู้ชีพ รพ.ป่าซาง
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งสีขาวยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ขฉ 6764 เชียงใหม่ มีนางสาวลินจง การรุ่งโรจน์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ที่ 12 ต.ท่าตุ้ม อ.ป่าซาง เป็นผู้ขับขี่ โดยรถได้พุ่งตกไปริมถนนติดกับสี่แยกสะปุ๋ง ด้านหน้ารถพักเสียหาย ภายในรถมีผู้บาดเจ็บร้องครวญคราง 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด อาการสาหัส 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.ป่าซาง
ส่วนรถบรรทุกได้ขับหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสะปุ๋ง จึงขับรถจักรยานยนต์ตามไปจนพบว่า รถยนต์บรรทุกสีขาวยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-8416 เพชรบุรี คันดังกล่าวจอดไว้ริมถนนห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กม.เนื่องจากถังน้ำมันถูกชนจนหลุด ทำให้น้ำมันหมดไม่สามารถขับหลบหนีไปได้ไกล รวมทั้งนายนพดล แก้วชาวนา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 373/ 2 หมู่ที่ 23 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก คนขับยังอยู่ที่รถ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน
นายนภดล เล่าให้ฟังว่า ดื่มสุรามาก่อนที่จะขับรถบรรทุกข้าวโพดสดเพื่อไปส่งโรงงาน พอมาถึงสี่แยกไฟแดง ที่เปิดกระพริบไว้ และเห็นว่าทางตรง จึงเหยียบคันเร่งพุ่งไป แต่ขณะรถมาถึงกลางแยก จู่ๆได้มีรถเก๋งคันดังกล่าวมาชน บริเวณกลางลำรถพอดี ด้วยความตกใจกลัวจึงรีบขับรถหลบหนีไป แต่ถังน้ำมันถูกชนจนร่วง ทำให้น้ำมันหมดจึงจอดไว้ข้างทาง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตามมาพบ
ส่วนรถเก๋งคู่กรณี เจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้หญิงในรถทั้งหมดได้พากันไปดื่มสังสรรค์กันที่สถานบันเทิงในตัวเมืองลำพูน ก่อนจะขับรถกลับบ้าน มาถึงที่เกิดเหตุบริเวณสี่แยกสะปุ๋ง มองไม่เห็นรถบรรทุกมาจึงขับพุ่งเข้าชนอย่างแรงจนเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่า่าวงไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป