ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.ห้วยใหญ่ สืบจนรู้แล้วว่าหญิงสาวนิรนามที่ถูกฆ่าทิ้งศพหมกป่าริมถนนสายยุทธศาสตร์ 331 (โคราช-สัตหีบ) เป็นใคร เบื้องต้น ระบุถูกฆ่ารัดคอจากที่อื่นก่อนนำศพมาทิ้ง คาดสามารถหาตัวคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆ่ารัดคอเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำภายในป่าละเมาะ ริมถนนสายยุทธศาสตร์ 331 (โคราช-สัตหีบ) ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบเอกสาร หรือหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใคร คาดว่าน่าจะถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้นั้น ล่าสุด พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมายัง สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง พร้อมเรียก พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ รวมถึงนายตำรวจระดับรอง ผกก.และสารวัตรงานสืบสวน สภ.เมืองพัทยา บางละมุง หนองปรือ และ สภ.นาจอมเทียน เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี และคดีอุกฉกรรจ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่สถานีตำรวจต่างๆ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
พล.ต.ต.อำพล กล่าวว่า จากการกำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ แกะรอยหาข่าวทำให้ทราบว่าผู้ตายคือ น.ส.รัชดา หรือโบว์ อานุภาพ อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู ซึ่งจากการทำงานอย่างรวดเร็วของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคาดว่าน่าจะออกหมายจับคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังมีการนำข้อมูลภาพถ่ายของผู้ตายเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ทำให้ในเวลาต่อมา ได้มีญาติของ น.ส.รัชดา หรือโบว์ ผู้ตาย เดินทางจาก จ.หนองบัวลำภู มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่าบิดามารดาของ น.ส.รัชดา เสียชีวิตไปหมดแล้ว จึงทำให้ น.ส.รัชดา เดินทางมาประกอบอาชีพแถวชายหาดเมืองพัทยา
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อผู้ตายจึงเริ่มแกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ผู้ตายได้นั่งรถจักรยานยนต์ซ้อน 3 มากับชายหญิงคู่หนึ่งจากบริเวณปากซอย 6 ถนนเลียบชายหาดพัทยา มาลงที่ปากซอย 11
กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ตายครั้งสุดท้ายได้ที่บริเวณปากซอยกอไผ่ พัทยาใต้ ส่วนชายหญิงคนดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างสอบสวน และจากการตรวจสอบสภาพศพเชื่อว่า น่าจะเป็นการฆ่ารัดคอ ส่วนบริเวณแผ่นหลังพบมีรอยเขียวช้ำคล้ายเลือดตกลงสู่ที่ต่ำ ขัดแย้งกับเมื่อครั้งที่พบศพครั้งแรกที่อยู่ในสภาพนอนคว่ำ จึงสันนิษฐานว่า ท่าทางการตายน่าจะนอนหงาย และเสียชีวิตมาจากที่อื่นก่อนนำศพมาทิ้ง
แต่ยังไม่ทราบว่าพาหนะที่บรรทุกศพผู้ตายมาเป็นรถชนิดใด ส่วนผู้ตายถูกฆาตกรรมด้วยสาเหตุใด และถูกข่มขืนด้วยหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อหาข้อมูลอย่างละเอียดต่อไป