ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผบ.ทร.ทุ่มงบเกือบ 700 ล้านบาท จัดสร้างเขี้ยวเล็บผิวน้ำ เรือตรวจการณ์ปืน “เรือหลวงแหลมสิงห์” ส่งมอบประจำการยังกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงในทะเล
เมื่อเวลา 15.09 น.วันนี้ (21 ก.ย.) พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ปืน เรือหลวงแหลมสิงห์ ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พล.ร.ต.สุรศักดิ์ เมธยาภา ผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ กำลังพลประจำเรือให้การต้อนรับ พร้อมรับมอบเรือเข้าประจำการ
พล.ร.อ.ณะ กล่าวว่า กองทัพเรือ ได้จัดหาเรือตรวจการณ์ปืนลำใหม่เข้าประจำการกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนเรือตรวจการณ์ระยะปานกลาง ตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ.2551-2560 ซึ่งได้ทยอยปลดประจำการ และใช้ปฏิบัติงานร่วมกับเรือ อากาศนาวี หน่วยกำลังต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หน่วยกำลังนาวิกโยธิน และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ มีขีดความสามารถปฏิบัติการรบ 2 มิติ ได้แก่ การปฏิบัติการสงครามผิวน้ำ และการต่อสู้ภัยคุกคามทางอากาศ
กองทัพเรือ ได้จัดซื้อแบบแปลนรายละเอียด และพัสดุสำหรับการสร้างเรือตรวจการณ์ปืน จากบริษัท มาร์ซัน จำกัด ในลักษณะ Package Deal งบประมาณ 699,459,000 บาท ทั้งนี้ กองทัพเรือได้มอบหมายให้กรมอู่ทหารเรือธนบุรี เป็นหน่วยรับผิดชอบการสร้างเรือ เพื่อดำเนินการตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และการพึ่งพาตนเอง และเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของกรมอู่ทหารเรือ ในการต่อเรือตรวจการณ์ปืน
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.991 และนำไปสู่การปรับปรุงเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.994 ที่ได้มีการขยายแบบเรือ และรูปทรงตามพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และล่าสุด คือ เรือหลวงกระบี่ ซึ่งเป็นเรือประเภทเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งที่มีขนาดใหญ่ และสมรรถนะสูง ในส่วนของเรือตรวจการณ์ (ปืน) กำหนดให้ตั้งชื่อตามอำเภอชายทะเล ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า “เรือหลวงแหลมสิงห์” (อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี)
คุณลักษณะทั่วไปของเรือ ยาว 58 เมตร กว้าง 9.3 เมตร ลึกกลางลำ 5.1 เมตร กินน้ำลึกเต็มที่ 2.9 เมตร ระวางขับน้ำสูงสุด 520 ตัน ความเร็วสูงสุดที่ระวางขับน้ำ 23 นอต มีระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 2,500 ไมล์ทะเล ความคงทนทะเลจนถึงสภาวะระดับ 4 (Sea State 4) มีสถานที่จัดเก็บเสบียงอาหาร และระบบน้ำจืดเพียงพอสำหรับการปฏิบัติงานในทะเลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 7 วัน โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุง มีห้อง และที่พักอาศัยเพียงพอกำลังพลตามอัตรา 53 นาย มีอาวุธประจำเรือ ประกอบด้วย ปืนขนาด 76/62 มิลลิเมตร OTO Melara (Refurbished) จำนวน 1 กระบอก ปืนกลขนาด 30 มิลลิเมตร MIS จำนวน 1 กระบอก ปืนกลขนาด .50 นิ้ว จำนวน 2 กระบอก
สมรรถนะขีดความสามารถในการปฏิบัติการ (Operation Capabilities) ต่อต้านภัยผิวน้ำ ด้วยการซ่อนพราง การใช้อาวุธปืนหลัก/ปืนรองของเรือ และการชี้เป้าให้แก่เรือผิวน้ำและอากาศนาวี การโจมตีที่หมายบนฝั่งด้วยอาวุธปืนหลัก/ปืนรองของเรือ การป้องกันฝั่ง การสกัดกั้น การตรวจค้นด้วยระบบตรวจการณ์ และเรือยางท้องแข็งไฟเบอร์กลาสความเร็วสูง (RIB) การป้องกันภัยทางอากาศในลักษณะการป้องกันตนเองด้วยระบบควบคุมการยิง และการใช้อาวุธปืนหลัก/ปืนรองของเรือ การค้นหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลตามแนวชายฝั่ง การสนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเลและท่าเรือ และการสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรืออื่นๆ