น่าน - ชาวเมืองน่านทยอยหามผู้ป่วยส่งเข้าโรงพยาบาลกันทั้งคืน หลังซื้อขนมปังจากห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รับประทานไม่ถึง 3 ชั่วโมง ด้วยอาการปวดท้อง เวียนหัว อาเจียน ท้องเสียถ่ายเหลวอย่างรุนแรง
วันนี้ (21 ก.ย.) นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนโรคของผู้ป่วย ซึ่งทยอยมาเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้รวม 26 รายแล้ว ทราบว่าผู้ป่วยทั้งหมดรับประทานขนมปังมีไส้ครีม หรือที่เรียกว่าเอแคลร์ จากห้างค้าส่งในจังหวัดน่าน โดยผู้ป่วยที่รับประทานเข้าไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็เริ่มออกอาการปวดท้อง เวียนหัว อาเจียน ท้องเสียถ่ายเหลว
สันนิษฐานว่าในส่วนผสม และกระบวนการผลิตขนมดังกล่าวอาจมีความผิดพลาด เนื่องจากหากเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียจะต้องใช้ระยะประมาณ 6 ชั่วโมง-2 วันจึงจะมีอาการ แต่เหตุการณ์นี้ส่วนใหญ่รับประทานเข้าไปก็มีอาการอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะเกิดจากสารเคมีที่เป็นส่วนผสมในขนม
ขณะนี้ได้ประสานกับทางห้างฯ ให้เก็บขนมดังกล่าวออกจากจุดขายไว้ก่อนเพื่อนำขนมที่เป็นปัญหาไปทำการตรวจหาเชื้อ ส่วนผู้ป่วยทั้งหมดได้รักษาตามอาการ และปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตามยังจะต้องเฝ้าระวังอาการของผู้ป่วยที่รับประทานขนม จนกว่าจะได้ผลตรวจเชื้อโรคในขนมที่ชัดเจนก่อน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพบว่ายังมีประชาชนจากอำเภอต่างๆ เริ่มทยอยเข้ารักษาตามโรงพยาบาลอำเภอด้วยอาการในลักษณะเดียวกัน เช่น โรงพยาบาลสันติสุข และโรงพยาบาลแม่จริม ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากการซื้อขนมดังกล่าวไปรับประทาน และบางรายซื้อมาจากพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อมาแบ่งบรรจุขาย จึงขอเตือนประชาชนชาวจังหวัดน่านขอให้หยุดรับประทานขนมเอแคลร์ที่ซื้อจากห้างค้าส่งดังกล่าวไว้ก่อน เนื่องจากเชื่อว่าจะมีเชื้อที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ
ขณะที่นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พลตรี ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลน่าน ซึ่งมีผู้ป่วยที่ต้องแอดมิดอย่างน้อยจำนวน 5 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 2 ขวบ และ 7 ขวบ อยู่ 2 รายด้วย