น้ำแม่ปิงเชียงใหม่ปริ่มตลิ่งสูงสุดในรอบปี-ชลประทานยันคุมอยู่ไม่ล้นท่วมพื้นที่

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชลประทานเชียงใหม่ชี้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงช่วงผ่านตัวเมืองเชียงใหม่เพิ่มสูงขึ้นจนปริ่มตลิ่งเนื่องจากฝนตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยืนยันจะไม่เกิดภาวะล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่แน่นอน โดยปริมาณน้ำผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและประตูระบายน้ำควบคุมได้ เผยไม่เร่งระบายเพราะไม่ต้องการให้ส่งผลต่อตลิ่งและพื้นที่ท้ายน้ำได้รับผลกระทบ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากฝนที่ตกในพื้นที่ต้นน้ำทำให้มีน้ำไหลลงสู่แม่น้ำปิงเป็นจำนวนมากและต่อเนื่อง จนพบว่าแม่น้ำปิงช่วงไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่มีระดับเพิ่มสูงขึ้นจนแทบจะปริ่มตลิ่งและเป็นระดับน้ำที่สูงที่สุดในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ จนประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้แม่น้ำเกิดความเป็นห่วงกังวลว่าจะเกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าในช่วงนี้จะไม่เกิดภาวะน้ำปิงล้นตลิ่งท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่

โดยสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิงสามารถควบคุมได้ ทั้งนี้ที่จุดวัดระดับน้ำ P.1 เชิงสะพานนวรัฐ ในตัวเมืองเชียงใหม่ วัดระดับน้ำสูงสุดได้ 2.48 เมตร ช่วงเที่ยงวานนี้ (19 ก.ย. 59) โดยที่ระดับวิกฤตอยู่ที่ 3.70 เมตร ซึ่งหลังจากนั้นระดับน้ำได้ทรงตัวและค่อยๆ ลดระดับลงอย่างช้าๆ

ทั้งนี้ นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิงว่า จากฝนที่ตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่พบว่าระดับน้ำปริ่มตลิ่ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเป็นสถานการณ์ที่ยังสามารถควบคุมได้และจะไม่เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมตัวเมืองเชียงใหม่

โดยช่วงที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นครั้งนี้พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ขณะที่ระดับน้ำที่จะทำให้เกิดการล้นตลิ่งต้องเกินกว่า 440 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ระบุด้วยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำปิงช่วงผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ช่วงเที่ยงวานนี้ และไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม ดังนั้นจากนี้ระดับน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง หรือประตูน้ำป่าแดดสามารถระบายน้ำได้สูงสุดถึง 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แต่ทางชลประทานไม่ได้เปิดประตูระบายน้ำทั้งหมดและใช้วิธีค่อยๆ ปล่อยระบายน้ำ เนื่องจากไม่ต้องการให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วเกินไปจนส่งผลกระทบต่อตลิ่งได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ที่อยู่ใต้ประตูระบายน้ำที่อาจจะระบายน้ำไม่ทัน จึงต้องทำการบริหารจัดการน้ำให้สัมพันธ์กันด้วย