ศูนย์ข่าวศรีราชา - กระแสคนใจบุญให้ความช่วยเหลือสัตว์โลกยังมีต่อเนื่อง รายแรกกู้ภัยฯ พัทยา รุดช่วยแมวจรจัดติดในห้องเครื่องยนต์ หลังนำตัวออกมาไม่พบว่ามีเจ้าของ อาสาชุบเลี้ยงเอาบุญ ส่วนอีกราย พนักงานสาวร้านขายปุ๋ยใน จ.จันทบุรี โพสต์เฟซบุ๊กตามหาเจ้าของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (19 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีลูกแมวติดอยู่ในห้องเครื่องรถยนต์เก๋งซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณหน้าศูนย์ยาฟาสซิโน ถนนพัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ไปถึงพบลูกแมว สีขาว-เทา เพศผู้ อายุประมาณ 1 เดือน ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือหลังจากติดอยู่ในห้องเครื่องรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ทะเบียน กอ 5074 ชลบุรี ที่มี น.ส.ปุณฉัตร ดีพร้อม อายุ 33 ปี เป็นเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่จึงใช้แม่แรงยกตัวรถขึ้นก่อนจะใช้มือล้วงเข้าไปบริเวณใต้เครื่องยนต์จนสามารถนำลูกแมวออกมาได้สำเร็จ
จากการสอบถาม น.ส.ปุณฉัตร กล่าวว่า ไม่ทราบว่าลูกแมวตัวดังกล่าวเป็นของใคร และติดอยู่ในเครื่องยนต์นานเท่าไร โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์ออกจากบ้านมาซื้อยา ระหว่างกำลังเดินเข้าศูนย์ยาฟาสซิโน ได้ยินเสียงแมวร้อง เมื่อตรวจสอบดูก็พบลูกแมวตัวดังกล่าวติดอยู่ในห้องเครื่องยนต์ แม้พยายามจะช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบดังกล่าว
ด้าน นายบุญชิน อ่อนถาวร เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ที่ช่วยเหลือเจ้าแมวกล่าวว่า หลังช่วยเหลือแมวได้สำเร็จก็ได้ทำการ ประกาศหาเจ้าของแต่ไม่มีผู้ใดแสดงตน สุดท้ายตนเกรงว่าลูกแมวอาจถูกสุนัขทำร้าย จึงอาสานำกลับไปชุบเลี้ยงที่บ้านเพื่อเอาบุญ
สาวเมืองจันท์โพสต์เฟซบุ๊กตามหาเจ้าของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
ส่วนที่ จ.จันทบุรี น.ส.จิตตะมาตร ดีจันท์ดา ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เพศผู้ สีน้ำตาล ลงในเฟซบุ๊กเพื่อประกาศตามหาเจ้าของ พร้อมประกาศให้สามารถติดต่อรับคืนได้ที่ร้านชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยใน จ.จันทบุรี หลังพบสุนัขตัวดังกล่าวเดินอยู่ริมถนนสายตรอกนอง-มะขาม อ.ขลุง จ.จันทบุรี จนเกือบจะถูกรถชนอยู่หลายครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าสุนัขน่าจะหล่นจากท้ายรถยนต์กระบะที่วิ่งอยู่บนถนนสายดังกล่าว
จากกระแสในโลกสังคมออนไลน์ก็ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาดูสุนัข เพื่อตรวจสอบว่าใช่สุนัขของตนหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ยังไม่พบเจ้าของที่แท้จริง