ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาเอาจริง กำหนดนโยบายเด็ดขาดห้ามจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ล่าสุด แม้ผู้ประกอบการริมทางเท้าพัทยาใต้จะรวมตัวเข้าพบเพื่อร้องขอผ่อนปรน ประกาศยืนยันดำเนินการเด็ดขาดไม่มีการลดหย่อนทุกกรณี
จากกรณีที่เมืองพัทยาได้ลงพื้นที่จัดระเบียบผู้ประกอบการริมทางเดินเท้าสาธารณะ บริเวณถนนเลียบสายชายหาดพัทยา จอมเทียน และวอล์กกิ้ง สตรีท เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นการคืนพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้ประชาชนได้ใช้ร่วมกันนั้น
จากนโยบายดังกล่าว ทำให้ล่าสุด วันนี้ (19 ก.ย.) กลุ่มผู้ประกอบการค้าซึ่งค้าขายอยู่บริเวณทาง เดินเท้าริมถนนสายชายหาดด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพัทยาใต้ จำนวนกว่า 10 ราย เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม และขอผ่อนปรนต่อผู้บริหารเมืองพัทยา หลังจากที่มีนโยบายในการจัดระเบียบอย่างเข้มงวดจนทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถทำกินได้ โดยมี นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายและให้คำปรึกษาผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย ร้อยตรีสุวิทย์ ลากลาง ผู้บังคับหมวด กองร้อยรักษาความสงบ ร.21 พัน.1 รอ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังปัญหา
ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงว่าแผนงานดังกล่าวเป็นกรณีที่ของเมืองพัทยาต้องดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐ โดยเน้นหนักไปที่พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ถนนสายชายหาดพัทยา จอมเทียน และวอล์กกิ้ง สตรีท โดยได้ดำเนินงานต่อเนื่องมาจากการจัดระเบียบรถพ่วงข้าง และกลุ่มหาบเร่แผงลอย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ และประโยชน์โดยตรงแก่ส่วนรวม โดยเฉพาะกรณีของการการสัญจรไปมาตลอดแนวทางเท้า
ขณะที่ นายสุชาติ วราวุฒิ ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้ก็เพื่อมาร้องขอให้มีการผ่อนปรนบ้าง เนื่องจากแต่เดิมนั้นเมืองพัทยาได้ผ่อนผันให้ผู้ประกอบการสามารถตั้งขายสินค้าในพื้นที่ความกว้างประมาณ 1.5 เมตร และมีความยาวตลอดแนวฟุตปาธ ซึ่งผู้ประกอบการก็ถือปฏิบัติมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่พร้อมทำการตรวจยึดทรัพย์สินแผงลอยของผู้ประกอบการ และมีการติดป้ายประกาศขอคืนทางสาธารณะและขอคืนฟุตบาธ บริเวณพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า อีกทั้งได้เปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ในอัตราสูงสุด 2,000 บาท จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมบ้าง และหากเมืองพัทยาจะทำการเก็บค่าบำรุงท้องที่ก็จะยินยอมเพียงแค่ขอพื้นที่ทำมาหากินต่อไป
ขณะที่ ร้อยตรีสุวิทย์ ลากลาง ผู้บังคับหมวด กองร้อยรักษาความสงบ ร.21 พัน.1 รอ. กล่าวว่า การจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะนั้นถือเป็นนโยบายหลักของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างเมืองพัทยา ซึ่งตามหลักการนั้นจะปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย ทั้งเรื่องของการยึดพื้นสาธารณะส่วนรวมมาประกอบอาชีพ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา หากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการแบบเด็ดขาด ไม่ลดหย่อนทุกรณี ซึ่งหากมีการผ่อนผันหรือลดหย่อนการจัดระเบียบบ้านเมืองก็ไม่สามารถทำได้