ตำรวจบุกจับเครือข่ายแก๊งค้าอาวุธปืนเถื่อนในจันทบุรี

จันทบุรี - กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม และตำรวจทางหลวงจันทบุรี ได้ร่วมกับบุกจับเครือข่ายแก๊งจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน พร้อมของกลางหลายรายการ

วันนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป.พ.ต.ท.ปริญญา เอิบอาบ สว.กก.ปพ.บก.ป. ร.ต.ท.ปานเทพ พจน์ธีระมนตรี รอง สว.กก.ปพ.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.วิทวัส เพ็ชรรักษ์ สว.ส.ทล.4 กก.3 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้บุกเข้ารวบตัว นายมนตรี ถนอมศักดิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ที่ 9 ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี หลังสืบทราบ และหาข่าวจนทราบว่า นายมนตรี ถนอมศักดิ์ มีพฤติการณ์อยู่ในเครือข่ายแก๊งจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน

สืบเนื่องจากนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนตีกันตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนนำไปสู่การจับกุม น.ส.สุนิสา สังข์เงิน และนายไพศาล คำไทย ผู้ต้องสงสัยได้ต่อสู้ขัดขืนการจับกุมมีการยิงต่อสู้จนเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจค้นสามารถยึดอาวุธปืนได้เป็นจำนวนมาก ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขยายผลการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ ของนายไพศาล

โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ผู้เชี่ยวชาญพบรายชื่อลูกค้าผู้สั่งซื้อขายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน หลักฐานการส่งสินค้า หลักฐานการโอนชำระเงินสินค้าเป็นจำนวนมาก เจ้าพนักงานตำรวจ กก.ปพ.บก.ป.ได้สืบค้นข้อมูลเครือข่ายแก๊งจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน พบว่า นายมนตรี ถนอมศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้อยู่ในเครือข่ายแก๊งจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน จึงได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดจันทบุรี เลขที่ 81/2559 ลงวันที่ 16 กันยายน 2559 เพื่อยึดทรัพย์สิน และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ไว้ตรวจสอบ

โดยนายมนตรี ได้สมัครใจ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.ป.ตรวจค้น และผลการตรวจค้นพบของกลาง จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 99 มม.ไม่มีเลขทะเบียนปืน 1 กระบอก พร้อมด้วยแมกกาซีน 1 อัน 2.เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.(หัวรู) จำนวน 52 นัด 3.เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.หัวธรรมดา จำนวน 7 นัด 4.เครื่องกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 เกต จำนวน 21 นัด และ 5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ในตู้ภายในห้องพักของ นายมนตรี ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะนำตัว นายมนตรี ถนอมศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้มาที่สถานีตำรวจภูธรมะขาม ก่อนที่จะส่งมอบตัว นายมนตรี ผู้ต้องหารายนี้ให้แก่พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป