เจ้าท่าฯ ยืนยันพร้อมถมทรายชายหาดพัทยาแน่สิ้นเดือนกันยายนนี้

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าท่าฯ ยืนยันพร้อมถมทรายชายหาดพัทยาแน่ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ หลังรัฐบาลจี้ต้องเสร็จ เพื่อต้อนรับมหกรรมการสวนสนามเรือรบนานาชาติ จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า พร้อมติดตั้งท่าเทียบเรือชั่วคราว ประเดิมพ่นทราย 100 เมตรแรกที่พัทยาเหนือ

วันนี้ (17 ก.ย.) นายภิมุข ประยูรพรหม ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมนายท้ายเรือ และคนประจำเรือในเขตพื้นที่เมืองพัทยา พร้อมด้วย นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา และนายสนิท บุญมาฉาย ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวพัทยา ท่ามกลางผู้ประกอบการเรือ ผู้ควบคุมเรือ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา

นายภิมุข ประยูรพรหม ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 กล่าวว่า ด้วยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา ได้เล็งเห็นความสำคัญของการยกระดับให้เมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติสวยงามสมบูรณ์พร้อม เหมาะสมแก่การพักผ่อน ตอกย้ำการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำระดับโลก ซึ่งเป็นเป้าหมายของเมืองพัทยา และรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้มหาศาลแก่ประเทศ

ดังนั้น การให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเรือ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยม ทั้งการขึ้นเรือข้ามฟาก เรือสปีดโบต เรือลากร่ม-ลากกล้วย รวมทั้งเจ็ตสกี จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะนำไปสู่การป้องกัน และลดการเกิดอุบัติเหตุ อันเป็นการทำลายภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้รายได้จากอุตสาหกรรมดังกล่าวลดลง

ประกอบด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการเดินเรือ การควบคุมเรืออย่างปลอดภัย วิธีการปฏิบัติเมื่อประสบอุบัติเหตุทางน้ำ การชี้แจงมาตรการความปลอดภัยทางน้ำ หรือพัทยาโมเดล การดำเนินการเกี่ยวกับเจ็ตสกีเพื่อเช่าในเขตเมืองพัทยา และมาตรฐานเสื้อชูชีพ เป็นต้น

นอกจากนี้ ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา ยังได้มีการชี้แจงแผนงานสำคัญในเรื่องของการเดินหน้าโครงการเสริมทรายชายหาดเมืองพัทยา ที่ได้มีการดำเนินการไว้ตั้งแต่ปี 2558 แต่ยังคงติดปัญหาอุปสรรคในหลายๆ ส่วน จนส่งผลให้โครงการต้องหยุดชะงัก ตามที่ได้มีการเซ็นสัญญาไว้กับบริษัทร่วมค้า มารีน คอนสทรัคชั่น จำกัด โดยมีระยะการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2558-วันที่ 21 มิถุนายน 2559 รวมทั้งสิ้น 540 วัน

แต่หลังจากที่เกิดปัญหาในเรื่องของแหล่งทรายจึงทำให้โครงการหยุดชะงัก แต่ล่าสุด สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา ได้ออกมายืนยันถึงความคืบหน้าโครงการเสริมทรายชายหาด ปัจจุบันได้แหล่งทรายแห่งใหม่แล้วซึ่งอยู่บริเวณเกาะรางเกวียน ในพื้นที่อำเภอบางเสร่ เพื่อนำมาพ่นเสริมเติมชายหาดจากของเดิมยื่นออกไปในทะเลเป็นระยะ 35 เมตร ตลอดความยาวของชายหาดพัทยา ซึ่งมีระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร โดยจะแบ่งพื้นที่การพ่นทรายออกเป็น 2 ช่วง เริ่มช่วงแรกตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือ ถึงชายหาดพัทยากลาง

สำหรับช่วงที่ 2 เริ่มจากพัทยากลางไปสิ้นสุดที่พัทยาใต้ และแต่ละช่วงจะเริ่มดำเนินการพ่นทรายไปทีละ 100 เมตร รวมระยะเวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้นประมาณ 6-8 เดือน แต่จะต้องให้การดำเนินงานแล้วเสร็จให้ทันเดือนพฤศจิกายนในปี 2560 นี้ เนื่องจากอ่าวพัทยา จะต้องเป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับบรรดาเรือรบชนิดต่างๆ จากชาติอื่นๆ กว่า 40-50 ประเทศ ที่จะเข้าร่วมมหกรรมสำคัญ ได้แก่ พิธีสวนสนามเรือรบนานาชาติ ซึ่งนับว่าเป็นงานสำคัญระดับชาติครั้งแรกที่จะเกิดขึ้นในเมืองพัทยา

นายภิมุข กล่าวต่อไปว่า ขณะที่โครงการเสริมทรายชายหาดเมืองพัทยา สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เตรียมที่จะติดตั้งท่าเทียบเรือชั่วคราว หรือแพลตฟอร์มไว้บริเวณจุดชมวิวพัทยากลาง ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1,000 เมตร ขนาด 7 x13 เมตร และมีพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งสิ้น 150x150 เมตร เพื่อให้เรือลำเลียงทรายที่มาจากเกาะรางเกวียน จำนวน 2 ลำต่อวัน สามารถเทียบท่านำทรายบรรจุเข้าเครื่องพ่นซึ่งติดตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มดังกล่าว เริ่มต้นพ่นทรายตามแผนงานที่ได้มีการวางไว้ว่าจะต้องดำเนินการพ่นทรายไม่ต่ำกว่า 1 ,800 ตันต่อวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน และจะต้องเริ่มงานทันทีไม่เกินสิ้นเดือนกันยายนนี้

ด้าน นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เผยว่า ในเรื่องของโครงการเสริมทรายชายหาดเมืองพัทยา แน่นอนว่าหากมีการเริ่มต้นการทำงานจะมีผู้ประกอบการบางส่วนที่จะต้องยุติการดำเนินกิจการเป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย ผู้ประกอบการเรือสบีดโบต เรือลากร่ม และเจ็ตสกี เป็นจำนวน 10 ราย รวมทั้งผู้ประกอบการร่มเตียงที่ตั้งอยู่บนชายหาดพัทยาเหนือ ที่มีพื้นที่ประกอบการอยู่ใน 100 เมตรแรกของการดำเนินงาน แต่เราก็ได้มีการชี้แจงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้มีความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คาดว่าระยะเวลา 6 เดือนที่ได้กำหนดไว้โครงการจะแล้วเสร็จทันตามกำหนดการ หากไม่ติดปัญหาอุปสรรคในเรื่องของสภาพอากาศแปรปรวนจนส่งผลให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงัก แต่เราก็ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องไม่เกิน 8 เดือน เพื่อให้ทันต้อนรับงานมหกรรมสวนสนามเรือรบนานาชาติที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปี 2560