น้ำป่าทะลักลงน้ำตกห้วยจันทร์ ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเด็ดขาด

ศรีสะเกษ - ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ศรีสะเกษ เกิดน้ำป่าทะลักลงน้ำตกห้วยจันทร์ หวั่นประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก เตือนเด็ดขาด ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำในระยะนี้

วันนี้ (11 ก.ย. 59) เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายพื้นที่ของ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะตามอำเภอแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเทือกเขาพนมดงรัก ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลทะลักลงมาตามลำห้วยต่างๆ ของ จ.ศรีสะเกษ ตามแหล่งน้ำทุกแห่งระดับน้ำสูงขึ้น และที่บริเวณน้ำตกห้วยจันทร์ ซึ่งเป็นน้ำตกชื่อดังของ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ น้ำป่าไหลทะลัก กระแสน้ำเชี่ยวกราก มองไม่เห็นโขดหินที่อยู่กลางลำห้วยของน้ำตกห้วยจันทร์ นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงเล่นน้ำได้สะดวก โดยเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ขุนหาญ เจ้าหน้าที่ ตชด. ร่วมกับ อบต.ห้วยจันทร์ ได้เตือนประชาชนไม่ควรลงเล่นน้ำตกขณะนี้ อาจได้รับอันตรายจากน้ำที่เชี่ยวกราก

นางสาวสายรุ้ง ประจิม อายุ 43 ปี ผู้ช่วยมัคคุเทศก์ประจำน้ำตกห้วยจันทร์ กล่าวว่า ฝนตกหนักมากในช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าไหลทะลักลงมาจากเทือกเขาพนมดงรัก บริเวณพลาญเตี้ย พนมฉนาก และพนมตาเหมือน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ท้องที่ ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากน้ำตกประมาณ 15 กม.

สาเหตุที่น้ำป่าทะลักลงมาสู่น้ำตกห้วยจันทร์อย่างรวดเร็วนั้นเกิดจากการบุกรุกทำลายป่าสองฟากฝั่งลำห้วยจันทร์ ซึ่งเดิมบริเวณนี้เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นพื้นที่ซับน้ำ คอยทำหน้าที่ต้านและชะลอความเร็วของกระแสน้ำ แต่ปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นพื้นที่ทำการเกษตรเกือบทั้งหมด เช่น สวนยางพารา และไร่มันสำปะหลัง เป็นต้น ไม่สามารถต้านและชะลอความเร็วของกระแสน้ำไว้ได้ ทั้งไม่สามารถดูดซับน้ำไว้สำหรับระบายลงสู่น้ำตกได้ช่วงที่ไม่มีฝน ซึ่งตนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันเตือนประชาชนไม่ให้ลงเล่นในน้ำตก อาจได้รับอันตรายได้

จากการที่น้ำป่าไหลทะลักปริมาณมหาศาล ส่งผลให้น้ำท่วมสะพานที่ประชาชนใช้สัญจรข้ามลำห้วยจันทร์สูงประมาณ 2 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ชาวบ้านที่จะเข้าไปทำการเกษตรบริเวณภูติ๊กต็อกต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทนเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ น้ำป่ายังท่วมถนนระหว่างบ้านห้วยจันทร์ ไปยังบ้านตาจู ต.ห้วยจันทร์ อ.ขุนหาญ สูงประมาณ 1 เมตร ทำให้สองหมู่บ้านถูกตัดขาดออกจากกัน ประชาชนสองหมู่บ้านไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้