ลำพูน - นายจ้างใจดำขนแรงงานต่างด้าวชาวเขมร ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชายหญิง กว่า 30 คน มาเก็บลำไยที่ “เชียงดาว เชียงใหม่” กว่า 2 เดือน เสร็จแล้วไม่จ่ายเงินค่าจ้างไม่พอ ขากลับขนใส่รถห้องเย็นมาปล่อยศาลาริมทางลำพูน พร้อมเอกสารปลอมหน้าตาเฉย
วันนี้ (10 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ห้องศูนย์วิทยุจามเทวี สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อเวลา 06.30 น.ที่ผ่านมา ว่า มีนายจ้างนำแรงงานต่างด้าวมาปล่อยไว้จำนวนมากบริเวณศาลาริมถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง ใกล้แยกเทคโนฯ ตำบลอุโมงค์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจป่าเห็ว ไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย อปพร.เทศบาลอุโมงค์
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบแรงงานต่างด้าวทั้งชายหญิง และเด็ก จำนวน 35 คน แยกเป็นผู้ชาย 18 ราย ผู้หญิง 11 ราย และเด็ก จำนวน 6 ราย พร้อมกระเป๋าสัมภาระจำนวนมากอยู่ที่ศาลาที่พักริมทางดังกล่าว จึงได้ประสานรถสายตรวจตำบลหนองช้างคืน รถสายตรวจเหมืองง่า รถสายตรวจ 20 นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่ง ร.ต.อ.สุพจน์ นุกาศ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำพูน เพื่อทำบันทึกตามระเบียบก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมารับตัวเพื่อผลักดันกลับประเทศต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเซาะ ซึ่งพอจะพูดสื่อสารภาษาไทยได้บ้างทราบว่า ทั้งหมดเป็นชาวเขมร มาจากจังหวัดพระตะบอง และเสียมราฐ เดินทางเข้ามาจากประเทศกำพูชา ทางด้านเขตชายแดนผ่านจังหวัดจันทบุรี โดยมีนายหน้ารับมาเพื่อมาทำงานเก็บลำไยที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยเสียค่านายหน้าขามาคนละ 3,800 บาท ขากลับเสียค่าใช้จ่ายคนละ 2,500 บาท
“หลังจากทำงานได้ 2 เดือนกว่า เก็บลำไยจนลำไยหมด แต่พวกตนก็ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง นายจ้างอ้างว่าจะจ่ายให้เมื่อถึงปลายทาง กระทั่งช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา นายจ้างบอกจะพากลับบ้าน โดยการนำรถลักษณะคล้ายห้องเย็นมารับให้นั่งอัดกันมา พร้อมกระเป๋าสัมภาระเครื่องครัวต่างๆ”
แต่เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าวคนขับได้จอดรถ และนายจ้างบอกว่า “ให้ขนของลง เดี๋ยวจะมีรถอีกคันมารับไปต่อไปส่งที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อกลับกัมพูชา” แต่แล้วก็รีบบึ่งรถหนีไปจนกระทั่งมีคนแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว
นายเซาะ กล่าวว่า พวกตนมาทำงานเพราะทางบ้านยากจน อยากเก็บเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย เมื่อมาทำงานพวกตนก็ตั้งใจทำงาน แต่ก็ถูกคนไทยใจดำหลอกให้มาทำงานแล้วไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ทำกันแบบนี้ได้อย่างไร ตอนนี้พวกตนไม่มีเงินติดตัวกันเลย หิวข้าวก็หิว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่นำเข้าแรงงานต่างด้าวพบว่า มีเพียง 3 รายเท่านั้นที่มีพาสปอร์ต นอกนั้นเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด โดยลงชื่อท้ายใบนำแรงงานต่างด้าว หรือนายจ้างว่า “นางสาววันดี สุดโลก” ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทะเบียนนายจ้างที่เกี่ยวข้องก็ไม่พบชื่อนี้แต่อย่างใด คาดว่าเป็นการปลอมทั้งเอกสาร ชื่อ และที่สำคัญเอกสารที่นายจ้างอ้างว่าดำเนินการให้โดยเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดร่วมหมื่นบาทนั้นไม่มีตราประทับของหน่วยงานราชการใดๆ เลย