กาญจนบุรี - รมว.เกษตรฯ ประเดิมตัดริบบิ้นที่ดิน ส.ป.ก.1,263 ไร่ ที่ยึดคืนจากแม่ศิษย์เอกธรรมกายที่กาญจนบุรี นักธุรกิจเครือ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” พร้อมนำเครื่องจักรกลเข้าพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งมอบให้คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 36/2559 มอบให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงแพะ และปลูกพืชผสม รายละ 5 ไร่ เผยเป็นแห่งแรกของประเทศ พร้อมเตรียมเข้าดำเนินการต่ออีก 2 จังหวัด “สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช”
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (9 ก.ย.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายสุวรรณ บูราพรนุสรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาลงที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลสิงห์ หมู่ 1 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมี นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พ.อ.วุฒิชัย นาควานิช รอง ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ นายวัชรินทร์ วะกะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูง ส.ป.ก.ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่นให้การต้อนรับ
และเข้าห้องประชุมเพื่อรับฟังการบรรยายสรุปแนวทางการพัฒนาพื้นที่ ของ นางเพียงใจ หาญพาณิชย์ จำนวน 1,263 ไร่ ที่ ส.ป.ก.กาญจนบุรี สามารถยึดคืน ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค.2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาในการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป มาจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกินตามนโยบายจัดที่ดินชุมชนในรูปแบบสหกรณ์ โดยมีอธิบดีกรมต่างๆ เป็นผู้รายงาน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ โดยในที่ประชุม พล.อ.ฉัตรชัย ได้มอบนโยบายให้ ส.ป.ก.ดำเนินการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรจากรายละ 3 ไร่ เพิ่มเป็นรายละ 5 ไร่ เพื่อความเหมาะสม เพราะนอกจากการส่งเสริมการเลี้ยงแพะแล้ว เกษตรกรอาจจะต้องปลูกพืชเกษตรผสมเพื่อหารายได้เสริมด้วย จึงเกรงว่าที่ดิน จำนวน 3 ไร่ อาจจะไม่เพียงพอ
จากนั้น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะนั่งรถยนต์ตู้ไปที่แปลงที่ดินที่ยึดคืนมาได้ จำนวน 1,263 ไร่ ของ นางเพียงใจ ติดริมถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมเยี่ยมชมแบบแปลนแปลงที่ดิน และแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของที่ดินแปลงดังกล่าว และเป็นประธานตัดริบบิ้นเปิดโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งมอบให้คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 36/2559
สำหรับหน้าแปลงที่ดินมีป้ายรูปภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะ คสช.โดยมีข้อความว่า “การจัดที่ดินทำกินชุมชนให้แก่ผู้ยากจนในรูปสหกรณ์ ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แปลงที่ 14 เนื้อที่ 1,263 ไร่ ต.สิงห์ หมู่ 5 อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 36/2559” ซึ่งป้ายดังกล่าวติดตั้งเอาไว้เป็นสัญลักษณ์เพื่อให้ประชาชนที่ผ่านไปมามองเห็นได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังว่า พื้นที่ตรงนี้เราได้ยึดคืนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยสามารถยึดพื้นที่ได้มา จำนวน 1,263 ไร่ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกที่จะต้องเร่งดำเนินการนำเครื่องจักรเข้ามาปรับพื้นที่เพื่อนำมาจัดสรรให้เกษตรกรผู้ยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกิน
ในการเข้ามาทำงานในครั้งนี้เราใช้ศักยภาพของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งหมด ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญคือ เกษตรกรจะต้องเข้ามาอยู่อาศัยได้จริง และในวันนี้เราได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของกระทรวงเกษตรฯ และสรุปได้ว่าพื้นที่บริเวณนี้จะให้เกษตรกรมีอาชีพด้านปศุสัตว์ เนื่องจากว่ากรมพัฒนาที่ดินได้เข้ามาสำรวจแล้วพบว่า พื้นที่แห่งนี้ค่อนข้างมีหินเยอะ จึงไม่เหมาะต่อการปลูกพืชการเกษตร ซึ่งกรมปศุสัตว์เห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้น่าจะเหมาะสำหรับการเลี้ยงแพะได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการแพะอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างตลาดของประเทศเวียดนาม ที่มีความต้องการแพะวันละ 4,000 ตัว แต่ปัจจุบันหาซื้อได้เพียงวันละ 2,000 ตัวเท่านั้น ซึ่งทราบว่าวันนี้มีนักธุรกิจจากประเทศเวียดนามเดินทางมาด้วย สำหรับปัญหาของพื้นที่นอกจากเรื่องของดินแล้ว ยังพบว่ามีปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งทางกรมชลประทานก็จะต้องไปวางแผนเพื่อใช้เทคนิคที่มีอยู่ดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำจากภายนอก และสร้างแหล่งน้ำขึ้นมาเพื่อให้เกษตรกรใช้การได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งนอกจากการเลี้ยงแพะแล้ว เกษตรกรยังสามารถหาวิธีปลูกพืชแบบผสมได้อีกทางหนึ่งด้วย
โดยการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร เราได้กำหนดเอาไว้ที่รายละ 5 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือพื้นที่จัดที่ดินให้แก่เกษตรกรรายละ 5 ไร่ ส่วนที่สองคือ พื้นที่แปลงรวม ใช้สำหรับการปลูกหญ้าเพื่อนำมาเป็นอาหารให้แก่แพะ ส่วนที่สามคือ พื้นที่ด้านหน้าที่ติดกับถนนซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งต่อไปจะมีการตั้งสหกรณ์ขึ้นมาเพื่อดูแลด้านการซื้อขายแพะที่เกษตรกรเป็นผู้เลี้ยง อนาคตอาจจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี ส่วนที่สี่คือ พื้นที่ด้านหลัง ซึ่งจะกันเอาไว้เป็นพื้นที่ป่า ซึ่งปัจจุบันพื้นที่บริเวณดังกล่าวก็เป็นผืนป่าอยู่แล้ว จึงจำเป็นจะต้องอนุรักษ์ผืนป่าเอาไว้ ซึ่งได้สั่งการให้ใช้งบประมาณเหลือจ่ายปลายปี 2559 เข้ามาดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าการนำเครื่องจักรกลเข้ามาปรับหน้าดินคงต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะแล้วเสร็จ
สำหรับพื้นที่ที่เข้ามาดำเนินการครั้งนี้ถือว่าเป็นแห่งแรกของประเทศ ที่กระทรวงเกษตรฯ สามารถยึดคืน และดำเนินการปรับพื้นที่ได้ ภายในประมาณ 6 เดือนหลังจากนี้ก็คงจะสำเร็จ จากนั้นจะได้มอบพื้นที่ให้แก่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เป็นผู้พิจารณาจัดสรร โดยในปีนี้กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการเพิ่มอีก 2 พื้นที่ที่สามารถยึดคืนมาได้แล้ว คือที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช
สำหรับปีงบประมาณ 2560 เราตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะดำเนินการใน 2 เฟส เฟสแรกคือ แปลงที่สามารถยึดคืนได้ทั้งแปลงโดยไม่มีอะไรติดขัด ส่วนเฟสที่ 2 คือ พื้นที่ที่ยังมีการคัดค้าน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารสิทธิการครอบครอง หากตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารสิทธินั้นได้มาโดยมิชอบ กระทรวงเกษตร์ฯ ก็จะเข้าดำเนินการยึดคืนเพื่อจัดสรรให้เกษตรกรทันที ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ สามารถยึดคืนพื้นที่ทั้งประเทศกลับมาได้แล้วประมาณ 120,000 ไร่ เชื่อว่าคงจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน