“น้องกิต” ลูกกตัญญูใช้วิชาหมอนวดแผนไทยหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว

จันทบุรี - น้องกิต หนุ่มวัย 16 ปี ใช้วิชาชีพนวดแผนไทย หลังจากไปเรียนจนเกิดความชำนาญ เปิดร้านนวดแผนไทย ส่งตัวเองเรียนหนังสือ จ่ายค่าเทอม และค่าหนังสือเอง โดยไม่รบกวนเงินของมารดา

วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูหมดนวดแผนไทยที่มีอายุน้อยเพียง 16 ปี ชื่อ นายกรกิต หรือน้องกิต นิมิตรัต และมีความกตัญญูต่อมารดา หลังจากได้เวลาว่างในช่วงหลังเลิกเรียน และช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเรียนนวดแผนไทยที่วิทยาลัยสารพัดช่างจันทบุรี จนจบคอร์สการนวดแผนไทย 1 ปีเต็ม โดย นายกรกิต หรือน้องกิต นิมิตรัต ได้เริ่มเรียนนวดแผนไทยมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.2 ใช้เวลาในการเรียนนวดแผนไทยทั้งหมด 900 ชั่วโมง จนจบคอร์ส

จากนั้นได้นำวิชาการนวดแผนไทยมาช่วย นางพาราดา นิมิตรัต อายุ 43 ปี มารดาที่เปิดร้านนวดแผนไทย นวดให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้ระยะเวลา 1 ปีแล้ว และทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในการนวดแผนไทยเพื่อผ่อนคลาย สนใจที่จะเลือกใช้ นายกรกิต หรือน้องกิต เป็นคนนวดแผนไทยให้อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการนวดแผนไทย น้องกิต ก็จะส่งตัวเองเรียนหนังสือ จ่ายค่าเทอม และจ่ายค่าหนังสือเรียนเอง โดยไม่ได้มีการรบกวนเงินของมารดาแม้แต่น้อย นอกจากนี้ เงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการนวดก็จะให้แม่เก็บไว้ใช้จ่าย และส่วนหนึ่งก็จะเก็บสะสมไว้

ทั้งนี้ นายกรกิต นิมิตรัต ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ชั้น ม.4 ปัจจุบัน ได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตัวเอง ตกเดือนละ 2,000 บาทโดยประมาณ และยังเหลือเงินเก็บสะสมอีกประมาณเดือนละ 6,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักจิตวิทยา ด้วยการให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่เข้าใช้บริการ หรือลูกค้าจนเกิดความประทับใจ และนับเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน และนักเรียนคนอื่นๆ อย่างดียิ่ง

นายกรกิต หรือน้องกิต นิมิตรัต กล่าวว่า ตนเองได้นำคำพูดของมารดาที่พูดว่าต่อไปนี้ต้องดูแลตัวเองให้ได้ อาชีพนวดเป็นอาชีพที่หาเงินได้เร็ว และสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ทำให้ตนเองเริ่มที่จะสนใจอาชีพนี้ และก็ไปเรียนนวดแผนไทยที่วิทยาลัยสารพัดช่างมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการให้ตนเองนวดทุกวัน รายได้ตก 2,000 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งปัจจุบันเงินที่ได้จากการนวดแผนไทยก็จะเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งตัวเองเรียนหนังสือ และค่าอาหารการกินทุกอย่าง ทั้งนี้ ตนเองคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ดี และสามารถทำได้เรื่อยๆ และไม่สร้างปัญหาให้แก่ตนเองด้วย

นางพาราดา นิมิตรัต มารดา กล่าวว่า ตนเองอยากให้ลูกชายได้หารายได้พิเศษ ซึ่งตนเองไม่มั่นใจในอนาคตว่าวันพรุ่งนี้จะมีแม่ไหม และอีก 1 เดือนจะมีแม่ไหม ถ้าไม่มีแม่ลูกชายจะทำอย่างไร ตนเองก็เลยมานั่งพูดคุยกับลูกชาย และคิดกันว่าทดลองดูไหม คือ ถ้าทำได้ก็โอเค หรือถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้เสียอะไร ลองดูไหม ลองดูแลตัวเอง ลองหาเรียนวิชาชีพอะไรพิเศษ และลองมาทำดู และบังเอิญลูกชายทำได้โดยการไปเรียนวิชาชีพการนวดแผนไทยจนเกิดความชำนาญ และมาเป็นหมอนวดสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างที่เห็นในปัจจุบัน