ระยอง - ไฟไหม้ร้านขายวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ตำบลมาบตาพุด เมืองระยอง กลางดึก เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงใกล้เคียงนับ 10 คัน ดับเพลิงที่ลุกไหม้นานกว่า 5 ชม.จึงควบคุมได้ อุปกรณ์ถูกไฟเผาวอด รวมค่าเสียหายหลายล้านบาท
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (5 ก.ย.) ร.ต.อ.เจริญ เดชพ่วง รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ร้านมาบตาพุดการค้า เลขที่ 100 ถ.สุขุมวิท (สี่แยกมาบตาพุด) ต.มาบตาพุด จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองมาบตาพุด และเทศบาลใกล้เคียง และของบริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รวมกว่า 10 คัน ไปดับเพลิง พร้อมตรวจสอบที่เกิดเหตุ กับ พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาค ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด พบกลุ่มควันไฟดำลอยจับท้องฟ้า และมีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ท่ามกลางชาวบ้านมายืนดูเหตุการณ์จำนวนมาก
ที่เกิดเหตุเป็นตึกอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 3 คูหา ขายวัสดุก่อสร้าง เช่น สี ทินเนอร์ ท่อพลาสติก ไม้อัด ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำนานกว่า 3 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ สอบถาม นายวสันต์ บุญชีวะ อายุ 55 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะนั่งรอลูกค้าอยู่ที่วินได้ยินเสียงคล้ายระเบิดมาจากด้านหลังตึก จำนวน 3 ครั้ง และมีกลุ่มควันไฟสีดำออกมาจากด้านหลังตึกดังกล่าว จึงได้ร้องเรียก นายเบญจรงค์ ดาวโชติ เจ้าของร้านที่เกิดเหตุซึ่งนอนพักอยู่ชั้น 3 ว่า เกิดไฟไหม้พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
นายเบญจรงค์ ดาวโชติ อายุ 24 ปี เจ้าของร้านเกิดเหตุกล่าวว่า เปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างทุกชนิด พร้อมสี ทินเนอร์ และปุ๋ยยูเรีย มานานหลายปี ขณะเกิดเหตุนอนพักอยู่ชั้น 3 กับครอบครัวอีก 4 คน ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ตกใจมากรีบพาครอบครัวลงมาชั้นล่าง ต้องมาเจอเปลวไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงต้องวิ่งหนีกลับขึ้นไปบนดาดฟ้า และพาครอบครัวปีนข้ามตึกที่อยู่ติดกันเป็นร้านคลินิกทำฟันรอดจากการถูกไฟคลอกตายทั้งครอบครัว
เบื้องต้น ทราบว่าต้นเพลิงเกิดจากห้องเก็บสีทาบ้าน น้ำมันทินเนอร์จำนวนมากที่อยู่ด้านหลังร้านและไฟได้ลุกลามไหม้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บธ 5588 ระยอง ได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่สามารถตอบได้ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนอาคารสูง 3 ชั้น 3 คูหา ที่เกิดไฟไหม้เกิดแตกร้าวเกือบทั้งหลังจะต้องทุบทิ้งทั้งหมดเกรงจะเกิดอันตราย
พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุต้องให้เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ พร้อมให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสอบปากคำผู้ที่พักอาศัยเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ส่วนค่าเสียหายคาดว่าเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท