ศรีสะเกษ - ผู้การตำรวจศรีสะเกษ เผยรู้ตัว 4 โจ๋เถื่อนบุกหอพักรุมฟัน นศ.เทคนิคปางตายแล้ว สั่งเร่งไล่ล่าตัวมาดำเนินคดี ขณะเหยื่อมือมีดยังคงไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่ย้ายที่อยู่ใหม่เพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี 4 คนร้ายวัยรุ่นบุกเข้าไปในหอพักพูลผลแมนชั่น ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ แล้วใช้อาวุธมีดรุมทำร้าย นายชาญชัย งามศิลป์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลโดนมีดฟันยับทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณมือข้างขวาถูกมีดฟันลึกถึงกระดูก และกระดูกข้อมือร้าวต้องใส่เฝือกไว้ ซึ่งล่าสุด แพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อัยรัช ชิณประยูร ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ และ พ.ต.ท.สังวร สอนหอม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเร่งดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งสอบปากคำบรรดาเพื่อนของ นายชาญชัย ซึ่งเป็นผู้เสียหายหลายคนแล้ว เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายเพิ่มเติมจะได้ดำเนินการออกหมายจับคนร้ายเนื่องจากหลักฐานสำคัญคือ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นหน้าของกลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คน ได้ค่อนข้างชัดเจนมาก
โดยขณะนี้ทราบแล้วว่ากลุ่มคนร้ายมีใครบ้าง ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด ศรีสะเกษ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เร่งไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ และขอฝากไปถึงบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองญาติพี่น้องของคนร้ายทั้ง 4 คนว่า ควรนำคนร้ายทั้ง 4 คนมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อมอบตัวสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ตนพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ทางด้าน นายชาญชัย งามศิลป์ อายุ 20 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เหยื่อของ 4 มือมีดโหด กล่าวว่า ได้ไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัยเทคนิคตามปกติ เนื่องจากว่าไม่อยากขาดเรียน เพราะมีเรียนหนังสือทุกวัน ส่วนสถานที่พักนั้นได้ย้ายออกจากหอพักเดิมแล้ว และไปพักอยู่ที่หอพักแห่งใหม่กับเพื่อน 3-4 คน ที่เป็นคนบ้านเดียวกันเพื่อความปลอดภัย ในส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายที่ทำร้ายตนขอให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากตนไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครทั้งนั้น ตนเป็นเด็กเรียนหนังสือ อีกทั้งใกล้เรียนจบชั้น ปวส.แล้ว เมื่อเรียนจบจะได้ออกไปหางานทำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูพ่อแม่ตายายที่แก่ชรามากแล้วต่อไป
