เจ้าหน้าที่ตราดสนธิกำลังร่วมตรวจสอบการนำไม้แปรรูปเข้าไม่ตรงกับจำนวนที่สำแดง

ตราด - ทหารนาวิกโยธินที่ 182 สนธิกำลังร่วมตำรวจภูธร ตำรวจน้ำ ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และศุลกากรคลองใหญ่ ตรวจสอบการนำไม้แปรรูปเข้าตราด 3 แห่ง พบไม้ไม่ตรงกับจำนวนที่นำเข้า

วันนี้ (1 ก.ย.) นายเบญจรงค์ วาสะศิริ หัวหน้าฝ่ายปราบปราม ด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด พร้อมด้วยทหารนาวิกโยธินจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็ก และจาก ร้อย รส.ทร.ที่ 4 ตำรวจภูธรคลองใหญ่ ตำรวจน้ำคลองใหญ่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตร.2 แล ตร.3 พร้อมด้วยสายตรวจสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด เข้าทำการตรวจสอบแปรรูปที่คลังสินค้าที่นำไม้เข้าจากประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด บางอินค้าไม้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฉัตรทองวัสดุก่อสร้าง คลองใหญ่ และบริษัท อิสเทิร์นวูด จำกัด ที่นำเข้าสู่คลังสินค้าชั่วคราวของด่านศุลกากรคลองใหญ่ เพื่อรอผ่านพิธีการทางศุลกากร พบว่า ทั้ง 3 แห่ง มีจำนวนไม้แปรรูปไม่ตรงตามที่แจ้งนำเข้ากับด่านศุลกากรคลองใหญ่

1) บริษัท อิสเทิร์นวูด จำกัด มีจำนวนไม้ 233 ท่อน ปริมาตร 15.13 ลบ.ม.
2) หจก.บางอินค้าไม้ จำนวน 251 ท่อน ปริมาตร 15.94 ลบ.ม.
และ 3) หจก.ฉัตรทองวัสดุก่อสร้าง มีจำนวนไม้ 223 ท่อน ปริมาตร 14.63 ลบม. ทั้งหมดได้ขอนำเข้าไม้แปรรูปจากกัมพูชาเพียง 7-8 ลบม.เท่านั้น

นายเบญจรงค์ เผยว่า จากการที่ตรวจสอบจำนวนไม้ของโรงไม้ทั้ง 3 แห่ง ที่นำเข้ามาพบว่า มีปริมาณไม่ตรงกับการสำแดงเอกสารกับศุลกากรคลองใหญ่ ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็คือ จะต้องเรียกผู้ประกอบการมาสอบถามถึงเหตุผลที่สำแดงจำนวนไม่ตรงกับการนำเข้าว่า มีเหตุผลอันใด ทั้งนี้ ไม้ที่เกินยังอยู่ในคลังสินค้าของด่านศุลกากรคลองใหญ่ และยังไม่ได้มีการเสียภาษี ซึ่งผู้ประกอบการสามารถมาเสียภาษีได้ภายใน 2 เดือน แต่ที่เกินมานั้นมีความผิด ซึ่งทางสำนักงานทางด่านศุลกากรจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทางด้านฝ่ายทหารนาวิกโยธินที่ 182 ที่เดินทางมาตรวจสอบได้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ประกอบการได้ขอนำเข้าจากเอกสารที่แจ้งกับด่านศุลกากรว่านำเข้ามา จำนวน 7-8 ลบ.ม. แต่ปรากฏว่า มาตรวจพบมีเกินจำนวนมาก ซึ่งส่อเจตนาไม่ดี หากเกินแค่ 1-2 ลบม.ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่นี่มีเกินกว่าครึ่ง ซึ่งทำให้เกิดผลเสียกับประเทศชาติ เพราะปริมาณไม้มีจำนวนเกินกว่าตัวเลขที่นำเข้าถึง 1 เท่าตัว ทางทหารจึงต้องเข้ามาตรวจสอบ และปรากฏข้อเท็จจริงขึ้น จึงต้องให้ทางศุลกากรคลองใหญ่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป