xs
xsm
sm
md
lg

เดินหน้าทุบ-รื้อแล้วรีสอร์ต “ภูทับเบิก” เถ้าแก่ม้งถามกลับ “แล้วจะให้อยู่อย่างไร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เพชรบูรณ์ - เจ้าหน้าที่ป่าไม้-ตำรวจ-ทหาร-อส.ระดมกำลังร่วม 700 นาย เดินหน้าปฏิบัติการรื้อรีสอร์ต “ภูทับเบิก” รอบสอง นำแบ็กโฮจ้วงทำลายอาคาร “บ้านสายหมอก-ภูทองคำ” 2 รีสอร์ตที่ยังไม่ยอมรื้อ เจอญาติ 1 ใน 2 รีสอร์ตพยายามขวางจนต้องเจรจากันนาน ชาวม้งถามกลับ “ที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ป่า แต่เป็นที่นิคมฯ รื้อแล้วจะให้ชาวเขาอยู่อย่างไร”

วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเปิดปฏิบัติการรื้อ 19 รีสอร์ตภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ รอบที่ 2 ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ทั้งป่าไม้ ตำรวจ ทหาร และ อส. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ พม.ราว 700 ราย แบ่งกำลังนำเครื่องจักรเข้ารื้อถอนรีสอร์ตเป้าหมายที่ยังไม่ดำเนินการรื้อถอน แม้ว่าทางคณะทำงานฯจะผ่อนผันให้เป็นเวลา 7 วันจนถึงวานนี้ (29 ส.ค.) รวม 2 จุด ได้แก่ รีสอร์ตบ้านสายหมอก และรีสอร์ตภูทองคำ หมู่ 8 บ้านดอยน้ำเพียงดิน ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า

โดยเป้าหมายแรกนายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า และะนายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก นำคำสั่งรื้อถอนเข้าแจ้งต่อนายเก่ง ทิวพงษ์งาม เจ้าของรีสอร์ตบ้านสายหมอก จากนั้นจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจ และบันทึกสิ่งของทรัพย์สิน ก่อนจะให้ชุดรื้อถอนเข้าขนย้ายวัสดุต่างๆ ออกจากอาคารบ้านพัก

จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ได้ใช้ค้อนปอนด์ เหล็กชะแลงทุบรื้อผนังคอนกรีต รวมทั้งใช้แบ็กโฮเข้าจ้วงรื้อตามข เนื่องจากอาคารบ้านพักที่ถูกรื้อถอนทั้ง 4 หลัง และห้องน้ำอีก 1 หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก
ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่อีกชุด ได้เคลื่อนย้ายกำลังไปที่ “รีสอร์ตภูทองคำ” ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ 2 เมื่อไปถึงพบกลุ่มเด็กและผู้หญิงซึ่งเป็นเครือญาติเจ้าของรีสอร์ตนั่งขวางกั้นและแสดงท่าทีไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอน แต่หลังมีการเจรจาไกล่เกลี่ย กลุ่มผู้หญิงและเด็กก็ยอมเปิดทางให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการรื้อถอน

แต่เนื่องจากอาคารบ้านพักจำนวน 3 หลังตามเป้าหมายเป็นอาคารคอนกรีตเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการจัดเก็บสิ่งของและรื้อหลังคาเรียบร้อยแล้วจึงมีการใช้แบ็กโฮเข้าจ้วงรื้อโครงสร้างอาคารเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทำเลที่ตั้งของอาคารบ้านพักดังกล่าวอยู่ริมหน้าผาสูงชัน และเสาอาคารตั้งยองอยู่บนหิน ทำให้การรื้อถอนค่อนข้างลำบากและหวาดเสียว ประกอบช่วงการรื้อถอนมีฝนตกลงมาและมีหมอกลงจัดจึงทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับเปียกปอน แต่การรื้อถอนยังดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง

นายเก่ง ทิวพงษ์งาม เจ้าของรีสอร์ตบ้านสายหมอก กล่าวว่า เสียใจ ไม่รู้ว่าชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป อยากถามความชัดเจนว่าพื้นที่นี้เมื่อรื้อเสร็จจะให้ชาวบ้านทำมาหากิน หรือยึดเป็นที่หลวง อยากขอความชัดเจน โดยส่วนตัวหากจัดที่ดินตรงนี้ให้ประชาชนทำกินต่อไป ก็อยากขอสิทธิได้พักอาศัยในที่ดินผืนนี้ต่อไป สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนี้เราก็ไม่ยอมให้รื้อ แต่เมื่อทางการจะมารื้อก็ตามแต่เพราะคงขัดขวางไม่ได้

“ใจของผมไม่ยอม และไม่ต้องการให้รื้อ โดยสภาพโดยกฎหมายจริงๆ หากเราอยู่ในเขตอุทยานฯหรือว่าเขตป่าสงวนฯ ไม่เคยให้ทำกิน ผมยอมรับได้ แต่พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของชาวเขา เป็นนิคมสงเคราะห์ชาวเขา ถ้าทำอย่างนี้แล้วชาวเขาจะไปอยู่อย่างไร” นายเก่งกล่าว และว่าที่ผ่านมาลงทุนไปราว 2 ล้านบาท แต่ตอนนี้ยอมรับว่าแทบหมดตัว วัสดุที่เก็บออกมาก็ไม่คงนำไปใช้อะไรไม่ได้อีก

อนึ่ง นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ระบุระหว่างการประชุมลับคณะทำงานฯ วานนี้ (29 ส.ค.) ว่า หลังการผ่อนผันยืดเวลารื้อรีสอร์ตภูทับเบิก 7 วัน จนถึงวันที่ 29 ส.ค. มีรีสอร์ตที่รื้อถอนแล้วจำนวน 9 ราย อยู่ระหว่างรื้อถอน 6 ราย และอีก 3 รายไม่มีการรื้อถอน







กำลังโหลดความคิดเห็น