ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจเชียงใหม่รวบ 2 หนุ่มตีนแมวตระเวนงัดแงะลักทรัพย์บ้านเรือนประชาชนในเขตตัวเมืองเชียงใหม่และใกล้เคียง รวมอย่างน้อย 17 หลังภายในเวลาแค่ 3 เดือน ได้ทรัพย์สินหลายร้อยรายการ ไม่เว้นแม้แต่เครื่องปั๊มน้ำเก่า มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท สารภาพเรียนวิชามาจากในคุก ใช้เพียงแท่งเหล็กข้องอ ไขควง และคีมหนีบในการลงมือ
วันนี้ (30 ส.ค. 59) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเจษฎา หรือดา ใจกาศ อายุ 27 ปี และนายกฤษณะ หรือแบงค์ ทาอินต๊ะ อายุ 29 ปี สองผู้ต้องหาชาวอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ที่ก่อเหตุงัดแงะและลักทรัพย์สินในบ้านเรือนประชาชนในหลายท้องที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งอำเภอเมืองเชียงใหม่, สันทราย, หางดง, สันป่าตอง และดอยสะเก็ด อย่างน้อย 17 หลังในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค. 59 ที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เช่น จักรยานยนต์, โทรทัศน์, โทรศัพท์, กล้องถ่ายรูป, เครื่องประดับ, พระเครื่อง เป็นต้น มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะของกลางที่นำมาแถลงข่าวในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 500 รายการ แม้กระทั่งเครื่องปั๊มน้ำเก่า
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 59 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์บ้านเรือนประชาชนจำนวน 2 หลังในเวลาไล่เลี่ยกันช่วงกลางวันในตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงสืบสวนติดตามจากกล้องวงจรปิดตามโครงการ “Police Eye” รวมทั้งหาข้อมูลจากร้านรับซื้อของมือสองในตัวเมืองเชียงใหม่ กระทั่งสามารถรวบรวมหลักฐานนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ในที่สุด
เบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุลักทรัพย์จากบ้านผู้เสียหายในช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมาแล้ว อย่างน้อย 17 หลัง ได้ทรัพย์สินจำนวนมาก นำไปขายและจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายเที่ยวเตร่
ทั้งนี้ อุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะมีเพียงแท่งเหล็กข้องอ ไขควง และคีมหนีบ เท่านั้น ซึ่งผู้ต้องหาระบุว่าเรียนรู้วิธีการมาในช่วงที่เคยติดคุก โดยเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะขยายผลการจับกุมต่อไป เนื่องจากเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุมากกว่านี้ และอาจจะมีผู้ร่วมกระทำผิดอีก ผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นผู้เสียหายสามารถติดต่อดูของกลางได้กับทางเจ้าหน้าที่
