อุบลราชธานี - ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ชี้การพัฒนาไอคิวของคนในจังหวัดอยู่อันดับที่ 76 ของประเทศ ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาอันดับ 72 ต้องเร่งพัฒนาและยุทธศาสตร์จังหวัดทำมาตั้งแต่ปี 2547 เผย 12 ปีที่ผ่านมาไม่เคยใช้งบพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สร้างแต่วัตถุ ขณะที่สื่อมวลชนเสนอแก้ให้อุบลราชธานีเป็นเมืองหลวงของการศึกษา
ที่โรงแรมสุนีย์แกรนด์ อ.เมืองอุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงษ์ และนายนิกร สุกใส รอง ผวจ.อุบลราชธานี จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชน เพื่อแถลงผลงานและนำเสนอผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด การจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในปีงบประมาณ 2559 รวมถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดในปีงบประมาณ 2560 แก่สื่อมวลชนกว่า 100 คน พร้อมรับฟังข้อเสนอด้านการประชาสัมพันธ์จังหวัดจากสื่อมวลชนท้องถิ่นและส่วนกลาง
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวขอบคุณชาวอุบลราชธานีที่ได้ร่วมกันจัดงานใหญ่หลายครั้ง ตามที่ได้วางแผนไว้ปีแรกเมื่อมารับตำแหน่งจะเร่งส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวซึ่งงานเทศกาลแห่เทียนพรรษาที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างมาก ที่พักเต็ม 100% และมีเงินหมุนเวียนเข้ามาในจังหวัดหลายร้อยล้านบาท
โดยปีที่ 2 จะเน้นเรื่องไฟสว่าง ถนนหนทางดี ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อยอยู่หลายจุด ปีที่ 3 มุ่งสู่อนาคต โดยจังหวัดเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ในปี 2568 ชาวอุบลราชธานีทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันช่วยผลักดันให้สำเร็จ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานียังกล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน วิสัยทัศน์ทำครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2547 หรือ 12 ปีผ่านมาไม่เคยมีการทบทวนวิสัยทัศน์ใหม่เลย ทั้งที่โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก เร็วจนเราอาจนึกไม่ถึง
“ที่น่าตกใจคือ เราเป็นเมืองนักปราชญ์ แต่ไอคิวเฉลี่ยของคนจังหวัดอุบลราชธานีอยู่ที่ประมาณ 89.6 (ภาคอีสานเฉลี่ย 95 เกณฑ์ปกติอยูที่ 90) เป็นอันดับที่ 76 ของประเทศ ชนะเพียงจังหวัดปัตตานีจังหวัดเดียวเท่านั้น” นายสมศักดิ์กล่าว และว่า การพัฒนาที่ผ่านมาเป็นงบประมาณใช้ด้านก่อสร้าง แต่ไม่มีงบสำหรับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เลย ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานีก็อยู่ที่อันดับที่ 72 ของประเทศไทย เรื่องนี้กว่าจะแก้กันได้ทั้งฝ่ายการศึกษา สาธารณสุข ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 ปี เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข อย่าไปคิดเรื่องผู้บริหารของจังหวัดจะโยกย้ายบ่อย ชาวอุบลราชธานีต้องดูแลบ้านของตัวเอง กำหนดอนาคตของตนเอง จึงต้องมาร่วมมือกันพัฒนาด้านไอคิวของพลเมืองให้สูงขึ้น
ด้านนายนพภา พันธุ์เพ็ง ประธานมูลนิธิสื่อสร้างสุข ในนามกรรมการสมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี ได้เสนอว่า เห็นด้วยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน จึงเสนอว่าตำแหน่ง (positioning) ของอุบลราชธานีควรเป็นเมืองหลวงของการศึกษา เพราะมีความพร้อมทั้งการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน มีวิทยาลัยอาชีวศึกษา โรงเรียนกีฬา มีวิทยาลัยพยาบาลผลิตป้อนเข้าสู่โรงพยาบาลระดับใหญ่ อย่างเช่น โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ มีศูนย์โรคหัวใจ มีโรงพยาบาลมะเร็ง โรงพยาบาลด้านจิตเวช จึงควรมุ่งพัฒนาคุณภาพของประชาชนในจังหวัดให้ดีขึ้นกว่านี้ โดยมุ่งสู่การเป็นเมืองหลวงแห่งการศึกษาต่อไป