ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายอำเภอหัวหิน เร่งทำความเข้าใจผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยวในอำเภอหัวหินให้ร่วมกันเป็นตาสับปะรดคอยดูแลพื้นที่ และสังเกตวัตถุต้องสงสัย และผู้เข้าพัก หากพบเห็นความผิดปกติต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ขณะที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ยอมรับแหตุระเบิดมีผลกระทบในช่วงระยะสั้น พร้อมจับมือกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองหัวหินตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย.-ต.ค.-พ.ย.ในชื่อ “รวมพลังกอดหัวหิน” เพื่อให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองหัวหิน ด้าน ตร.เร่งรวบรวมหลักฐานจ่อหมายจับอีก 2 รายที่เหลือ
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมวรรณารา หัวหิน นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน พ.ต.ท.ชย พานะกิจ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน นางลิษา อึ้งเห่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ร่วมพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ พร้อมให้คำแนะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่ของแต่ละสถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร และย่านบาร์เบียร์ให้เหมือนตาสับปะรด โดยเฉพาะจุดที่เป็นกระถางต้นไม้ตามหน้าสถานประกอบการขอให้ความสำคัญ และจัดระเบียบให้พื้นที่ดูโล่ง หลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 และ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา
นางลิษา อึ้งเห่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ ได้จัดทำเสื้อยืดสีน้ำเงินขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “กอดหัวหิน” โดยขณะนี้มีผู้สั่งซื้อมาแล้วกว่า 700 ตัว ทั้งนี้ เพื่อสื่อให้เห็นถึงว่าเราจะร่วมกันเดินหน้าต่อไป ถึงแม้ว่าการเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้จะกระทบต่อการท่องเที่ยวก็ตาม และอยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวออกมาร่วมกิจกรรม “รวมพลังกอดหัวหิน” ที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงให้เห็นว่าเมืองหัวหินปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ
โดยในวันนี้ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ยังได้มอบเสื้อกอดหัวหิน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอำเภอหัวหิน นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย และเชื่อว่าในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ผู้ที่ร่วมกิจกรรมร่วมกอดหัวหินจะร่วมกันสวมใส่เสื้อดังกล่าว
นายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ยอมรับว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นกระทบด้านการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวมาหัวหิน ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่มั่นใจว่าผลกระทบจะเป็นช่วงสั้นๆ ดังนั้น ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ พร้อมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้จัดกิจกรรมในชื่อ “รวมพลังกอดหัวหิน” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมาในพื้นที่หัวหินในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายนในปีนี้
“โดยกำหนดจัดกิจกรรมนำบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ และนักท่องเที่ยวประมาณ 300-400 คน เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองหัวหิน โดยจะเดินไปตามเส้นทางต่างๆ เช่น สถานีรถไฟหัวหิน ชายหาดหัวหิน และย่านบาร์เบียร์ ซึ่งกิจกรรมแรกจะเป็นวันที่ 27 สิงหาคมนี้เป็นการคิกออฟ โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเดินทางมาด้วย ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว แต่สิ่งสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องเร่งติดตามจับกุมตัวกลุ่มที่วางระเบิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ได้”
นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า ล่าสุด ทางตำรวจได้ขอหมายศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 15 ออกหมายจับผู้ต้องหา 1 รายไปแล้วเมื่อวานนี้ ทราบชื่อคือ นายรุสลัน ใบมะ ส่วนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมย้ำให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ต้องไม่ประมาท และขอให้ความสำคัญเกี่ยวกับการช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐภาคส่วนต่างๆ ทั้ง ตำรวจ ทหาร อส. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ ที่เข้ามาร่วมเป็นขบวนการตาสับปะรด เพราะจากข้อมูลถูกระบุว่า โทรศัพท์ซัมซุงที่กลุ่มที่วางระเบิดนั้นซื้อมาจากประเทศมาเลเซีย จำนวน 50 เครื่อง ซึ่งขณะนี้พบว่ายังเหลืออีก 28 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าหายไปไหน
นางวรรณา โชคสุชาติ กรรมการผู้จัดการโรงแรมวรรณารา หัวหิน กล่าวว่า หัวหินที่ผ่านมาเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นยอมรับว่า กระทบการท่องเที่ยวบ้าง แต่มั่นใจว่าทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น หน่วยงานทั้งจังหวัด อำเภอ ตำรวจ ทหาร เทศบาล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมฯท่องเที่ยวต่างๆ ก็พยามสร้างความมั่นใจ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการ ประชาชน ได้มีความรู้ความเข้าใจในด้านต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีสิ่งเหล่านี้เองผู้ประกอบการก็คงต้องนำไปพูดคุยให้แก่พนักงานได้เข้าใจ และช่วยสอดส่องให้มากขึ้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนคดีระเบิดหัวหิน ได้เดินทางทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นการเร่งด่วน หลังมีคำสั่งเพื่อดูรายละเอียดในสำนวนสอบสวนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อ 2 ผู้ต้องสงสัยที่มีการสเกตช์ภาพแล้วแต่ยังไม่ได้ออกหมายจับ
