ชาว อ.เขาสมิงเดือดร้อนโรงงานปาล์มส่งกลิ่นเหม็น

ตราด - ชาว อ.เขาสมิง ทนไม่ไหว โรงงานปาล์มส่งกลิ่นเหม็นมานาน 5 เดือน ด้านอุตสาหกรรม จ.ตราด เข้าตรวจสอบพร้อมสั่งแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน ก.ย.นี้ หากไม่ปฏิบัติตามเตรียมสั่งปิดโรงงานชั่วคราว

วันนี้ (25 ส.ค.) ชาวบ้านจาก 2 หมู่บ้านใน ต.วังกระแจะ อ.เมือง และบ้านสวนใน ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด จำนวน 20 คน ปลัดอำเภอเมืองตราด และปลัดอำเภอเขาสมิง รวมตัวอยู่ที่บ้านของ นางจงรัตน์ แสงคำ อายุ 73 ปี เลขที่ 104 หมู่ 6 บ้านสวนใน ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด เพื่อรอทางเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ตราด มาทำการตรวจสอบกลิ่นเหม็นที่เกิดจากโรงงานรับซื้อปาล์มน้ำมันของบริษัท ไทยอิสเทริน จำกัด ที่ตั้งอยู่ที่บ้านท่าประดู่ ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด

ระหว่างที่ชาวบ้านกำลังอธิบายถึงความเดือดร้อนจากกลิ่นจากโรงงานอยู่ เจ้าหน้าที่ของทางโรงงาน จำนวน 3 คน ได้เดินทางมาพบกับชาวบ้าน และชี้แจงถึงความก้าวหน้าในการแก้ปัญหากลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นจากระบบการผลิต และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอุตสาหกรรม จ.ตราด ที่เดินทางมาได้ร่วมมารับทราบปัญหาด้วย

ชาวบ้านได้เรียกร้องให้โรงงานได้แก้ปัญหากลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นมานาน 4-5 เดือน แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านจะให้เวลาแก่ทางโรงงานมาแล้วครั้งหนึ่งเป็นเวลา 2 เดือน แต่โรงงานยังไม่สามารถแก้ไขได้

ทั้งนี้ นางจงรัตน์ ได้นำใบตรวจวัดคลื่นหัวใจ และยาลดความดันมาให้ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ของโรงงานรับทราบถึงปัญหา และบอกว่า ตั้งแต่โรงงานมาตั้งที่บริเวณนี้ก็มีกลิ่นเกิดขึ้นเกือบทุกวันโดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น และเวลากลางคืน และช่วงที่ฝนตก และมีกลิ่นเหม็นรุนแรงทำให้การหายใจไม่สะดวก ที่สุดต้องไปให้หมอได้ตรวจอาการ และพบว่า อัตราการเต้นหัวใจไม่ปกติ หากยังสูดกลิ่นเหม็นต่อไปอีกโดยไม่มีรักษาอาจจะได้รับผลกระทบมากขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ต้องกินยาแก้ความดันทุกวันตามที่หมอได้สั่ง

จากนั้น จ้าหน้าที่โรงงงานได้นำชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ตราด ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และสื่อมวลชนไปที่โรงงาน ซึ่งมี นายกนก ใจรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังกระแจะ เดินทางมาร่วมรับปัญหาของชาวบ้านด้วย

นายภูรี ภัทรอภิสิทธิ ผู้จัดการโครงการ และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างระบบของโรงงานไทยอิสเทริน ได้พาเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านไปยังบ่อเก็บกักน้ำที่มี 3 บ่อ ซึ่งบ่อแรกที่ใช้อยู่แต่ปัจจุบันชำรุดรอการแก้ไข ส่วนบ่อที่ 2 เป็นบ่อเก็บน้ำที่เหลือจากระบบการผลิตมีจำนวนเกือบเต็มบ่อ และมีการสูบน้ำเสียเข้ามาในบ่อแห่งนี้ และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว จนผู้ที่เดินเข้ามาในระยะใกล้ และที่อยู่ใต้ลมทนกลิ่นไม่ได้นานนักต้องเดินออกมา และบ่อที่ 3 เป็นบ่อน้ำที่เก็บกักน้ำอยู่ แต่มีน้ำอยู่ไม่มากนัก

สำหรับบ่อน้ำบ่อแรกที่ใช้ในการบำบัดเสียหาย ที่ผ้าใบที่อยู่ก้นบ่อถูกใบพัดทำให้ไม่สามารถใช้ผ้าใบปิดได้ จนส่งผลกระทบต่อการแก้ไข และทำให้ต้องสูบน้ำจากบ่อที่ 1 ไปยังบ่อที่ 2 เพื่อแก้ไข ทำให้มีกลิ่นเหม็นเกิดขึ้นแม้จะใช้สารต่างๆ ควบคุมโดยใช้งบประมาณไปนับแสนบาทแล้วแต่ยังไม่สามารถลดกลิ่นได้มากนัก

ทั้งนี้ ยอมรับว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบและได้เข้าไปชี้แจง และเจรจากับชาวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่การแก้ปัญหายังไม่เสร็จซึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาท ในการแก้ไข อย่างไรก็ตาม ได้หารือกับทางอุตสาหกรรม จ.ตราด ขอเวลาแก้ไขอีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้จะแล้วเสร็จ

ขณะที่ นายสมพล จรลีรัตน์ หัวหน้าฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ตราด กล่าวว่า หลังตรวจสอบพบปัญหาจริงจึงสั่งให้มีการแก้ไข ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกโรงงาน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วต้องเร่งแก้ไข และทำความเข้าใจต่อชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในวันนี้สำนักงานฯ ได้อนุญาตให้โรงงานแก้ไขปัญหาภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ หากยังไม่แล้วเสร็จจะเดินทางมาตรวจสอบ และเมื่อพบว่ายังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จจะใช้อำนาจในการสั่งปิดชั่วคราวต่อไป

ด้าน นายฉัตรเพชร ทองไถ่ ตัวแทนชาวบ้าน หมู่ 9 ต.วังกระแจะ ยอมรับว่ามีกลิ่นฉุนแรงมาก ซึ่งเมื่อเดินทางมาที่โรงงานแล้วก็พบปัญหาจริง แต่เมื่อโรงงานได้ให้ความจริงใจในการแก้ไข และขอเวลาอีก 1 เดือน ก็พร้อมที่จะรอ แต่เมื่อพ้นเวลาแล้วจะต้องดูปัญหาอีกครั้งว่า โรงงานได้แก้ไขจนหมดกลิ่นหรือไม่ ถ้ายังชาวบ้านคงไม่ยอมอีกแล้ว

นางปราณี แดงโสภา อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 บอกว่า ตั้งแต่โรงงานเริ่มทำการผลิตส่งกลิ่นเหม็นมากจนทนไม่ไหว เหม็นจนปวดหัว แสบคอ ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยร้องเรียนมาแล้ว โรงงานบอกว่าจะดำเนินการแก้ไขภายใน 1 เดือน แต่พวกเราบอกว่าให้เวลา 2 เดือนเผื่อเวลาไว้ แต่นี่ผ่านไป 3 เดือนแล้ว ยังเหม็นเหมือนเดิม จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรม