กำแพงเพชร - วุ่นทั้งมหาวิทยาลัย ไฟไหม้อาคารการแพทย์ทางเลือก ม.ราชภัฏกำแพงเพชร อาจารย์-นักศึกษาแตกตื่นช่วยกันขนของหนีกันโกลาหล เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงสกัดนานกว่า 1 ชั่วโมง สุดท้ายห้องเก็บเอกสาร อุปกรณ์การเรียน และห้องควบคุมไฟฟ้าวอด
ร.ต.อ.วิโรจน์ กัณฑมาลา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารศูนย์การแพทย์ทางเลือก โปรแกรมวิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร หมู่ที่ 1 ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร เมื่อ 19.00 น.ที่ผ่านมา (23 ส.ค.) จึงประสานงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลนครชุม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองกำแพงเพชร พร้อมด้วยรถดับเพลิง จำนวน 4 คัน เข้าระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว พบว่าไฟกำลังลุกไหม้อาคารด้านหลัง มีควันไฟพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า นักศึกษา อาจารย์ที่ทราบข่าวต่างพากันมาช่วยขนย้ายอุปกรณ์การเรียนและเอกสารสำคัญออกจากอาคารกันอย่างวุ่นวาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ รปภ.มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรได้ช่วยกันตักน้ำ ดึงสายยางฉีดน้ำสกัดไฟ แต่ด้วยความแรงของเปลวเพลิงที่ไหม้โต๊ะ เก้าอี้ บานกบหน้าต่างที่เป็นไม้ จึงไม่สามารถดับไฟได้
จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิงมาถึง ได้ต่อสายฉีดน้ำสกัดไฟที่ลุกไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงไฟจึงสงบลง ตรวจสอบพบว่าด้านหลังเป็นห้องเก็บเอกสาร อุปกรณ์การเรียน และห้องควบคุมไฟฟ้าอาคารการแพทย์ทางเลือก อายุกว่า 20 ปี เสียหายทั้งหมด
สอบสวนนายสาคร อาษาภา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อ้างว่า ระหว่างเกิดเหตุตนกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ประตูด้านหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารประมาณ 20 เมตร ได้กลิ่นคล้ายสายไฟไหม้ เมื่อสำรวจดูโดยรอบพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากหลังคาห้องเก็บของดังกล่าว
จากนั้นมีเสียงคล้ายกับไฟช็อตดังมา 1 ครั้ง ไฟได้ลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่พยายามนำน้ำใส่ถังน้ำสาด และฉีดน้ำจากสายยางสกัด ใช้ถังดับเพลิงช่วยดับ แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเป็นอาคารเรียนเก่าและเป็นห้องติดตั้งแผงควบคุมวงจรไฟฟ้าทั้งหมด ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในอาคารดังกล่าว
สำหรับความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ และต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด