เชียงราย - ทีมค้นหานักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่หายเข้าไปในถ้ำทรายทองในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนนางนอน จ.เชียงราย ต้องยุติการค้นหาชั่วคราวเพราะน้ำท่วมในพื้นที่ อีกทั้งสภาพมืดและมีหินงอกหินย้อยจำนวนมากเกรงเกิดอันตราย
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการค้นหานักท่องเที่ยวรูปพรรณสันฐานคล้ายชาวจีนหรือญี่ปุ่นหายตัวไปขณะเข้าไปในถ้ำทรายทองซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มถ้ำภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดนายชุติเดช มีจันทร์ นายอำเภอแม่สาย ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนอุทยานแห่งชาติพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ตำรวจท่องเที่ยว ทหาร และชาวบ้านโดยเฉพาะอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) หมู่บ้านจ้อง เข้าไปหาก่อนน้ำจะท่วมหนักอีกครั้ง หลังจากวันก่อนพบมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากปากถ้ำแต่จากนั้นก็ไม่มีกลิ่นอีก
อย่างไรก็ตาม การค้นหาปรากฏว่ายังไม่พบสิ่งผิดปกติมากกว่าเดิมเจ้าหน้าที่จึงได้ให้นำนักประดาน้ำจากสมาคมเชียงรายบรรเทาสาธารณภัยเข้าไปดำสำรวจบริเวณลานพระซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นลานกว้าง และนักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปไหว้พระโดยคาดว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้เข้าไปด้วยแต่สภาพปัจจุบันถูกน้ำท่วมมิดแล้ว
นายชูเกียรติ เหลืองโสภาพรรณ หัวหน้าชุดกู้ภัยสมาคมเชียงรายศิริกรณ์บรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่าจากการนำทีมตรวจค้นเข้าไปสำรวจภายในถ้ำลึกประมาณ 980 เมตร ไม่พบผู้ใดและจุดที่จะดำลงไปพบว่าน้ำท่วมจนมิดหมดแล้วแต่มีลักษณะเป็นหินงอกหินย้อยและมีความลึกเข้าไปภายในประมาณ 30-50 เมตร จึงเกรงว่าหากเข้าไปแล้วจะมีความมืดและไม่ปลอดภัยต่อนักสำรวจจึงได้ยุติการดำค้นหาและอยู่เฉพาะบริเวณหน้าลานพระเท่านั้นโดยจะรอให้น้ำลดกว่านี้ก่อนจึงค่อยตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านนายชุติเดชกล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันค้นหามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน ถึงแม้จะยังไม่พบนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวแต่ก็ได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ทั้งชุดสืบสวนออกติดตามหาข่าวคนหายในพื้นที่ อ.แม่สาย ควบคู่กันไปด้วยโดยหาเบาะแสการเข้าพักอาศัยของชาวต่างชาติตามบ้านเช่า รีสอร์ตต่างๆ ด้านการค้นหาภายในถ้ำคงต้องยุติลงชั่วคราว ส่วนพื้นที่รอบนอกก็ขอให้ทางวนอุทยานตรวจตราดูก่อนโดยรอจนกว่าน้ำจะแห้งจึงร่วมกันสำรวจภายในอีกครั้งต่อไป