นครพนม - ชาวนครพนมแห่ร่วมพิธีบวงสรวงต้อนรับ องค์พญานาคขนาดใหญ่ “องค์ศรีสัตตนาคราช” ที่อัญเชิญมาจากสถานที่ก่อสร้างนครปฐม เตรียมอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแท่นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พร้อมสมโภช 9 วัน 9 คืน เผยจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดแวะสักการะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. คืนที่ผ่านมา (21 ส.ค.) บริเวณลานองค์พญาศรีสัตตนาคราช หรือสถานที่ก่อสร้างแลนด์มาร์กริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าสำนักงานป่าไม้นครพนม ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ รอง ผวจ.นครพนม นำข้าราชการ พี่น้องประชาชนร่วมพิธีบวงสรวงต้อนรับองค์พญานาคขนาดใหญ่ หรือองค์ศรีสัตตนาคราช ที่อัญเชิญมาจากสถานที่ก่อสร้าง จ.นครปฐม เพื่อนำมาเตรียมพร้อมนำขึ้นประดิษฐานไว้บนแท่นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงที่จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของ จ.นครพนม โดยมีพลังศรัทธาของประชาชน นักท่องเที่ยว จำนวนร่วม 1,000 คนเดินทางมาชื่นชม ให้การต้อนรับและร่วมพิธีบวงสรวงรับองค์พญานาคกันอย่างคึกคัก
สำหรับองค์พญานาคขนาดใหญ่ หรือองค์พญาศรีสัตตนาคราช ถือเป็นสัญลักษณ์ของ จ.นครพนม ที่ก่อสร้างขึ้นตามความเชื่อความศรัทธา เนื่องจากมีภูมิประเทศที่ตั้งติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีประวัติความเป็นมาในเรื่องของความเชื่อความเคารพศรัทธาในเรื่องของพญานาคที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาแต่อดีต
จนกระทั่งเมื่อปี 2554-2555 ในช่วงของนายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย อดีตผู้ว่าฯ นครพนม ปัจจุบันเป็นผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา ได้ผลักดันจัดสรรงบประมาณดำเนินการออกแบบสร้างขึ้นเป็นแลนด์มาร์กเพื่อประดิษฐานไว้ริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าสำนักงานป่าไม้ ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนมใช้เวลาการออกแบบก่อสร้างมานานเกือบ 5 ปี
ส่วนองค์พญานาคก่อสร้างขึ้นด้วยโลหะทองเหลือง เป็นองค์พญานาคขดตัวชูหัวจำนวน 7 เศียร มีความสูงตั้งแต่ฐานลำตัวประมาณ 10 เมตร ฐานกว้างประมาณ 6 เมตร โดยจะประดิษฐานหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้พ่นน้ำลงสู่แม่น้ำโขง ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของ จ.นครพนม ที่มีความสวยงาม โดดเด่น ไม่เพียงจะเป็นเอกลักษณ์จุดสนใจแก่ประชาชน นักท่องเที่ยว สามารถดึงดูดประชาชน นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม
นอกจากนี้ยังถือเป็นสิริมงคลแก่ชาว จ.นครพนม รวมถึงประชาชน นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสได้กราบไหว้บูชาองค์พญานาคศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาว จ.นครพนม สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวให้คึกคักมากขึ้น และจะมีการจัดสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ รวม 9 วัน 9 คืน ตั้งแต่ 9-18 กันยายน 2559 ทุกคืนจะมีการจัดรำบวงสรวงบูชาจากสาวงาม 7 ชนเผ่าทุกคืน
