ฉะเชิงเทรา - ขนส่งแปดริ้ว เรียกผู้ประกอบการรถบรรทุกขับแซงหวาดเสียว และเป็นภัยต่อผู้ใช้เส้นทางร่วมบนถนน หลังตบรถยนต์กระบะจนตกถนน จากหลักฐานกล้องหน้ารถที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ จนสะเทือนไปทั่วทั้งโซเชียล ในช่วงเทศกาลวันแม่ที่ผ่านมานั้น เข้ามาทำการบันทึกถ้อยคำการตักเตือนแล้ว
วันนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายยงยุทธ นาคแดง ขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า หลังจากมีการนำภาพจากกล้องติดรถยนต์ไปเผยแพร่กรณีมีรถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อ ขับเปลี่ยนเลนขึ้นแซงจากช่องทางด้านซ้ายออกไปยังในช่องทางด้านขวาบนถนนสาย 304 มุ่งหน้าสี่แยก อ.บางคล้า อย่างรวดเร็ว จนทำให้ส่วนท้ายพ่วงของตัวรถเหวี่ยงไปถูกรถยนต์กระบะที่กำลังขับมาตามเส้นทางด้านขวาจนตกถนนลงไปยังในร่องกลาง เมื่อช่วงสายของวันที่ 13 ส.ค.59 ที่ผ่านมานั้น ว่า
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.59 ที่ผ่านมา ทางสำนักงานขนส่ง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการเรียกตัว นายจิรวัฒน์ เหลืองเจริญพัฒนะ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145-147 ถ.เอมอรอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ประกอบการขนส่งรายดังกล่าวเข้ามารายงานตัว และให้ถ้อยคำพร้อมทำบันทึก และตักเตือนไว้แล้ว ส่วนคนขับนั้น คือ นายสมศักดิ์ พายพายุ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/3 ม.7 ต.วังทองแดง อ.เมือง จ.สุโขทัย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการลาพักผ่อนอยู่เป็นเวลา 2 วัน จึงยังไม่ได้เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ขนส่ง
โดยทางผู้ประกอบการรับปากว่าจะนำตัว นายสมศักดิ์ เข้ามาพบทางสำนักงานขนส่งในเร็วๆ นี้ ซึ่งทางสำนักงานขนส่งฉะเชิงเทรา ได้ทำการตรวจสอบประวัติของ นายสมศักดิ์ แล้ว ปรากฏว่า ยังไม่เคยถูกตักเตือน หรือมีพฤติกรรมในการขับรถที่มีลักษณะที่เป็นอันตรายเช่นนี้มาก่อน จึงเชื่อว่าเป็นการกระทำผิดครั้งแรก ซึ่งจะได้ทำการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ขนส่ง ในข้อหาขับรถโดยประมาท ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แต่จากการที่ไม่เคยกระทำความผิดในลักษณะนี้มาก่อนจึงน่าจะเป็นความประมาทครั้งแรก จึงยังไม่พิจารณาเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตขับรถ แต่จะทำการเปรียบเทียบปรับในอัตรา 2,000 บาท และจะต้องมีการติดตามดูพฤติกรรมว่า จะมีการกระทำความผิดในลักษณะนี้อีกหรือไม่
นายยงยุทธ กล่าวว่า ส่วนภาพจากคลิปนั้นหลังจากได้ดูแล้วยังไม่ชัดเจนว่าคนขับรถบรรทุกนั้นมีความจงใจที่จะเบียด หรือตบให้รถยนต์กระบะตกถนนหรือไม่ แต่จากการที่ได้พูดคุยกับทางผู้ประกอบการขนส่ง หรือเจ้าของรถที่ได้พูดคุยกับทางพนักงานขับรถแล้ว ได้ระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจ แต่คนขับอาจจะแซงออกขวามาเร็วไปหน่อย จึงทำให้รถเสียการทรงตัวเล็กน้อยจนเซออกไปขอบทางด้านขวา คนขับจึงได้รีบหักกลับเข้ามาจึงทำให้ตัวพ่วงนั้นเหวี่ยงไปฟาดเข้ากับตัวรถยนต์กระบะพอดี
“ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการตั้งใจ เพราะคนขับมองไม่เห็นรถยนต์กระบะที่แซงขึ้นมา โดยขณะนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถคันของคู่กรณีนั้น ทราบว่า ได้มีการชดใช้ค่าเสียหายกันไปจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว” นายยงยุทธ กล่าว
