กาญจนบุรี - ผบก.กาญจนบุรี สั่งตำรวจในสังกัดทั้ง 21 สถานีเพิ่มกำลังความเข้มตั้งจุดตรวจจุดสกัด พร้อมกำชับฝ่ายสืบสวนออกหาข่าว และเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณถนนนาๆชาติ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อป้องกันเหตุบึ้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกาญจนบุรีว่า จากกรณีเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณย่านเซ็นเตอร์พอยท์ เขตเทศบาลนครตรัง อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อวันที่ 11 ส.ค.59 และเหตุระเบิดขึ้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.พังงา และ จ.นครศรีธรรมราช บางจังหวัดยังเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นอีก ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
สำหรับความเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ภูเขา น้ำตก และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอันดับต้นๆของประเทศ โดยเหตุระเบิดและเหตุไฟไหม้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของประเทศทั้งสิ้น เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว ทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนใจ หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเส้นทางอยู่ห่างกรุงเทพฯเพียงแค่ 129 กิโลเมตรเท่านั้น
สำหรับมาตรการณ์การป้องกันและรักษาความปลอดภัยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 17 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 13 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ได้สนธิกำลังกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพิ่มขึ้นจากที่เคยมีอยู่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสถานที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร ถนนนาๆชาติ ห้างสรรพสินค้า ปั้มน้ำมัน และชุมชน เป็นต้น
โดยนายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจับตากล่มบุคคลต้องสงสัย อย่างใกล้ และหากเกิดสถานการณ์ใดๆขึ้นให้รายงานให้ทราบโดยด่วน พร้อมทั้งให้รายงานสถานการณ์ให้ทราบทุกๆ 1 ชั่วโมง ไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่าได้วิตกและหากพบวัตถุต้องสงสัยขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อไปตรวจสอบให้เร็วที่สุด
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนโดยเฉพาะสถานบันเทิงที่มีอยู่ ก็ขอให้ผู้ประกอบการตรวจสอบบุคคลเข้าออกอย่างเข้มข้น ห้ามปล่อยให้นักท่องเที่ยวพกพาอาวุธปืนเข้าไปเด็ดขาดซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง
รายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้สถานีตำรวจในสังกัดทั้ง 21 สถานี ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ออกหาข่าว และให้เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลาดตระเวนเพื่อป้องกันเหตุตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณถนนนานาชาติ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยให้ดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และให้รายงานสถานการณ์ทุกๆ 1 ชั่วโมงเช่นกัน