เหนือทุกจังหวัดเฝ้าระวังเข้มรับบึ้มระนาวแหล่งท่องเที่ยวใต้

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ฝ่ายความมั่นคงทุกจังหวัดภาคเหนือเฝ้าระวังเข้ม หลังบึ้มระนาวแหล่งท่องเที่ยวหลายจังหวัดภาคใต้ จับตาสนามบิน-ศูนย์การค้า-ย่านท่องเที่ยว-สถานบันเทิงใหญ่ ฯลฯ ขณะที่ชายแดนแม่สอด-แม่สาย ยังปกติ มีแต่ข่าวลือชายต้องสงสัย 5 คน โผล่โรงแรมใกล้สนามบินท่าขี้เหล็ก

วันนี้ (12 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุระเบิดป่วนแหล่งท่องเที่ยวหลายจังหวัดในภาคใต้ ทั้งที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, ภูเก็ต, พังงา รวมถึงเหตุไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าจังหวัดตรัง-นครศรีธรรมราช ตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 11 ส.ค.ต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้ ทำให้หน่วยงานความมั่นคงจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือต่างเรียกประชุมด่วน เพื่อหารือแนวทางป้องกันเหตุร้าย แม้ว่าทุกจังหวัดในภาคเหนือ ยังไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น

ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ได้เรียกประชุมด่วนเมื่อ 10.30 น.ที่ผ่านมา โดยมีการกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่งเล็งพื้นที่เฝ้าระวังประกอบด้วย สนามบิน ศูนย์การค้า ย่านท่องเที่ยว สถานที่ที่มีประชาชนมารวมกันจำนวนมาก สถานบันเทิงขนาดใหญ่ เป็นต้น พร้อมกับย้ำให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

ด้านนาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) ได้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการ การรักษาความปลอดภัย ทชม.ทั้งภายในและภายนอกท่าอากาศยาน โดยในส่วนของมาตรการภายใน ที่ได้ดำเนินการ ประกอบด้วย 1. จัดตั้งจุดสกัดร่วมตรวจยานพาหนะ โดยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ประจำศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานเชียงใหม่ เริ่มตั้งแต่ 13.30 น.(12 ส.ค.) เป็นต้นไป

2. จัดชุดตรวจผสม พร้อมเจ้าหน้าที่ทำลายวัตถุระเบิด เพื่อเดินตรวจพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร และพื้นที่โดยรอบเขตปฏิบัติการการบิน (Airside) ทั้งนี้ได้เพิ่มรอบความถี่จากทุก 2 ชั่วโมง ต่อรอบการตรวจเป็นทุก 1 ชั่วโมงต่อรอบการตรวจ 3. จัดชุดสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อตระเวนตรวจพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยาน โดยได้เพิ่มรอบความถี่จากทุก 2 ชั่วโมง ต่อรอบการตรวจ เป็นทุก 1 ชั่วโมงต่อรอบการตรวจเช่นกัน 4. จัดระบบการจราจร โดยเข้มงวดกวดขันมิให้รถยนต์ที่ไม่มีผู้โดยสารมาจอดด้านหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด อนุญาตให้จอดเฉพาะรับ-ส่งผู้โดยสารเท่านั้น

5. เพิ่มความเข้มงวดการตรวจค้นบุคคลและสัมภาระ 6. เข้มงวดกวดขันการตรวจบัตรรักษาความปลอดภัย ในการเข้าออกพื้นที่หวงห้าม 7. กำชับเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังสิ่งของหลงลืมและสิ่งของต้องสงสัยต่างๆ

ส่วนมาตรการภายนอกท่าอากาศยาน ได้ประสานงานด้านการข่าวกับศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ อย่างใกล้ชิด, ประสานการปฏิบัติและซักซ้อมมาตรการการรักษาความปลอดภัยมณฑลทหารบกที่ 33, ประสานงานกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และตำรวจภูพิงคราชนิเวศ เพื่อเพิ่มความถี่ของสายตรวจรถยนต์ในการตรวจพื้นที่ท่าอากาศยานฯ และประสานขอความร่วมมือจากกองบิน 41 กวดขันการตรวจสอบบุคคลที่เข้าออกพื้นที่เขตปฏิบัติการการบินที่ผ่านช่องทางกองบิน 41

ด้านจังหวัดเชียงรายมีรายงานว่า มีการแจ้งเตือนสถานที่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ที่ควรจับตา คือ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง อ.เมืองเชียงราย, สถานีขนส่ง, ห้างเซ็นทรัล จ.เชียงราย, ย่านการค้าชายแดนทุกแห่ง, ย่านชุมชน/สถานบันเทิง, พื้นที่จุดอับ/สถานที่ราชการ เป็นต้น

ขณะที่มีกระแสข่าวว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ต้องสงสัยจำนวน 5 คนได้มีการนัดหมายประชุมพบปะในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสนามบินท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานให้หน่วยงานด้านความมั่นคงของดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังแล้ว เช่นเดียวกับพื้นที่ชายแดนแม่สอด ที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ระดมกำลังเฝ้าระวังพื้นที่เพ่งเล็งหลายพื้นที่ โดยเฉพาะย่านตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก แหล่งท่องเที่ยวสำคัญชายแดนไทย-พม่า ตรงข้ามเมืองเมียวดี แต่ล่าสุดเหตุการณ์ยังปกติ

วันเดียวกัน นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ผอ.รมน.อุทัยธานี ก็เรียกประชุมด่วน กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุทัยธานี ผู้บังคับการตำรวจ ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือในการวางมาตรการป้องกันแก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยได้กำชับให้เข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชน สถานที่ราชการ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด หรือพื้นที่จัดงานรื่นเริง เครื่องเล่นต่างๆ และที่มีประชาชนจำนวนมากพลุกพล่านทั้ง 8 อำเภอ เช่น ตลาดนัด หอนาฬิกา ถนนคนเดินตรอกโรงยา วัดท่าซุง น้ำตก ฯลฯ ให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบและขอให้เตรียมพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กล้องโทรทัศน์วงจรปิด เครื่องดับเพลิง อุปกรณ์แสงส่องสว่างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดระยะเวลา พร้อมทั้งให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินของทุกโรงพยาบาล เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้ราชการจังหวัดอุทัยธานีกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันสอดส่อง พบเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในชุมชน หรือพบเห็นวัตถุกล่องหีบห่อต้องสงสัยนำเข้ามาวางในแหล่งชุมชน พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดให้เห็นถนนหรือทางเท้าอย่างชัดเจน เพราะหากเกิดเหตุความไม่สงบจะมีประโยชน์ต่อทางราชการอย่างมาก ทั้งนี้หากเกิดเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือโทร. 191 ได้ทันที