xs
xsm
sm
md
lg

เผาแล้ว! คุณยาย “เจ้าดุ่ย” นักยกลูกเหล็กชายสร้างประวัติศาสตร์คว้า “ทองแดง” โอลิมปิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ฌาปนกิจแล้ว  นางสุบิน คงทัพ อายุ 82 ปี  คุณยาย“เจ้าดุ่ย”นักยกน้ำหนักเจ้าของเหรียญทองแดง โอลิมปิก 2016 ท่ามกลางลูกหลานญาติพี่น้องปชช.จำนวนมาก ที่วัดบ้านโพนม่วง ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ วันนี้ ( 10 ส.ค.)
สุรินทร์- ฌาปนกิจแล้ว คุณยาย “เจ้าดุ่ย” นักยกลูกเหล็กเจ้าของเหรียญทองแดง “โอลิมปิก 2016” ผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้นักกีฬายกน้ำหนักชายไทย ท่ามกลางลูกหลานญาติพี่น้อง ปชช.ร่วมงานจำนวนมาก ด้านแม่เผยชีวิตครอบครัวยากจน ทำนำ-รับจ้างส่งลูกเรียนกีฬาและเคยท้อหนีกลับบ้านก่อนไปสู้ใหม่จนสำเร็จ สำหรับวันแม่ปีนี้อยากให้ลูกชายกลับมากราบเท้าแม่ ขณะครูชี้ดุ่ยเป็นเด็กอดทนและเดินตามรอยพ่อแม่ที่เป็นกีฬาจนประสบความสำเร็จ

วันนี้ (10 ส.ค.) ที่วัดบ้านโพนม่วง ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจนางสุบิน คงทัพ อายุ 82 ปี คุณยายของ “เจ้าดุ่ย” สินธุ์เพชร กรวยทอง เจ้าของเหรียญทองแดงในกีฬายกน้ำหนักชาย รุ่น 56 กิโลกรัม ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่เมืองริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งช็อกเป็นลมขณะชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และเชียร์ “เจ้าดุ่ย” หลานชายแข่งขันยกน้ำหนักชิงเหรียญทองโอลิมปิก อยู่ที่บ้านเกิด บ.โพนม่วง คุ้มโนนระเวียงสามัคคี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมาเมื่อเช้าตรู่วันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยมีนายชูศักดิ์ ราชบุรี นายอำเภอชุมพลบุรี เป็นประธานการประกอบพิธีฌาปนกิจ ท่ามกลางบรรดาลูกหลานญาติพี่น้อง ประชาชนชาวบ้านโพนม่วง และชาวตำบลไพรขลา อ.ชุมพลบุรี มาร่วมงานเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายเป็นจำนวนมาก

คุณแม่จันทร์ กรวยทอง อายุ 56 ปี แม่ของเจ้าดุ่ย สินธุ์เพชร กรวยทอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กว่าเจ้าดุ่ยจะมาประสบผลสำเร็จในวันนี้นั้น ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวเราลำบากยากจน มีลูก 4 คน พ่อแม่เลี้ยงดูมาด้วยความลำบาก อาชีพหลักคือทำนา เมื่อว่างเว้นจากทำนาจะไปรับจ้างทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก และส่งให้เรียนหนังสือ ส่วน “เจ้าดุ่ย” อาจารย์ที่โรงเรียนโพนม่วงได้คัดเลือกส่งไปเข้าเรียนโรงเรียนการกีฬา จ.นครราชสีมา เรียนไปได้สักพักก็หนีกลับมาบ้าน แม่ต้องพูดคุยจนลูกยอมกลับไปเรียนอีกครั้ง โดยแม่ได้พาไปส่งที่โรงเรียนด้วยตัวเอง เขาจึงอดทนสู้มาจนประสบผลสำเร็จในวันนี้ และแม่จะสนับสนุนเป็นกำลังใจให้เขาสู้ต่อไป

“สำหรับวันแม่แห่งชาติปีนี้อยากให้ลูกกลับมาบ้านมากราบเท้าแม่ และแม่ขออวยพรให้ลูกเป็นคนดีมีน้ำใจ มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณทุกคน” คุณแม่จันทร์กล่าว

ด้าน อ.สุทา ศรีสุรา อาจารย์ โรงเรียนบ้านโพนม่วง ผู้สอนและคัดเลือก “เจ้าดุ่ย” ส่งไปเรียนต่อยังโรงเรียนการกีฬาที่ จ.นครราชสีมา บอกว่าเจ้าดุ่ยมีความอดทนสูง มีความกตัญญู แม้เคยท้อแท้หนีโรงเรียนกลับมาบ้านแต่ยังกลับไปเรียนต่อจนประสบผลสำเร็จ ครอบครัวของ “เจ้าดุ่ย” มีความอบอุ่นอยู่กันพ่อแม่ลูก พ่อแม่ก็เป็นนักกีฬาของโรงเรียนบ้านโพนม่วงมาก่อน ลูกจึงเดินตามรอยพ่อแม่จนประสบผลสำเร็จ ปีนี้อาจารย์จะเกษียณอายุราชการแล้ว อยากให้ “เจ้าดุ่ย” มาร่วมงานเกษียณด้วยไม่ทราบว่าจะมาได้หรือไม่




พ่อแม่ของ “เจ้าดุ่ย”

อ.สุทา ศรีสุรา อาจารย์โรงเรียนบ้านโพนม่วง ผู้สอน“เจ้าดุ่ย”
กำลังโหลดความคิดเห็น