บุรีรัมย์ - ประชาชน และเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ว่างงาน มีรายได้รวมไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี แห่ลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐตามนโยบายรัฐบาล ที่ ธ.ก.ส.คึกคักต้องกางเต็นท์ให้บริการและแจกบัตรคิวเพื่อความรวดเร็วป้องกันแซงคิว
วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนและเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย รวมถึงผู้ที่ว่างงาน มีรายได้รวมไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้แห่มาลงทะเบียนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาอิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อย่างคึกคักเฉลี่ยวันละ 300-400 คน เพื่อรอรับสวัสดิการต่างๆ จากทางรัฐบาล
ขณะที่ทาง ธ.ก.ส.ได้มีการจัดกางเต็นท์ไว้ให้บริการผู้มาลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งจัดบัตรคิวเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้เกิดความรวดเร็ว และลดปัญหาการแซงคิวด้วย
โดยผู้ที่มาลงทะเบียนต้องกรอกเอกสารแบบลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จากนั้นทาง ธ.ก.ส.จะทำการบันทึกข้อมูลเข้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์แล้วส่งต่อไปยังกรมสรรพากร เพื่อจัดเก็บข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอน ก่อนที่ทางกระทรวงมหาดไทยจะได้นำฐานข้อมูลดังกล่าวที่ผ่านการตรวจสอบกลั่นกรองแล้วไปพิจารณาจัดสวัสดิการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ตรงกลุ่มเป้าหมายต่อไป
สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะมาลงทะเบียนจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย ต้องยินยอมเปิดเผยรายได้ การถือครองทรัพย์สิน เจ้าหนี้และจำนวนหนี้คงค้างให้ครบทั้งหมด ซึ่งสามารถมาลงทะเบียนได้ทั้งที่ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค. 2559
นายไพบูลย์ ธรรมสาร อายุ 55 ปี ซึ่งมีอาชีพทำนา บอกว่า ทุกปีจะมีรายได้จากการทำนาเพียงอย่างเดียว ขายผลิตผลได้ปีละครั้งเฉลี่ยปีละ 60,000 บาท หากปีไหนประสบปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมผลผลิตเสียหายรายได้จะลดลงเหลือเพียง 40,000 บาท ปัจจุบันมีหนี้สินที่กู้ยืม ธ.ก.ส.อยู่ 150,000 บาท การมาลงทะเบียนครั้งนี้จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องหนี้สินเป็นอันดับแรก เพราะรายได้จากการทำนาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอชำระหนี้
ด้าน นางปราณี หาสุข อายุ 37 ปี ชาวบ้านบุลาว ต.สะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า เมื่อก่อนมีอาชีพรับจ้างก่อสร้างมีรายได้วันละ 200-300 บาท แต่หลังจากคลอดลูกต้องหยุดทำงานมาเลี้ยงลูกทำให้ขาดรายได้ ปัจจุบันมีเพียงรายได้จากสามีที่ไปรับจ้างก่อสร้างเพียงวันละ 300 บาท ทำให้ไม่เพียงพอใช้จ่ายจึงไปหยิบยืมเงินเพื่อนบ้าน มีหนี้สินอยู่ 40,000 บาท ที่มาลงทะเบียนครั้งนี้อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องอาชีพที่สามารถทำงานอยู่ที่บ้านและเลี้ยงลูกไปด้วย พร้อมทั้งอยากให้สนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพด้วย มีความคาดหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากทางรัฐบาล
นางกัลยากร เพชรชนะ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอิสาณ กล่าวว่า ตั้งแต่ ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้เริ่มดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-15 ส.ค. 2559 ได้มีประชาชน และเกษตรกรที่มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนที่ ธ.ก.ส.สาขาอิสาณเพียงแห่งเดียวแล้วกว่า 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าหากครบกำหนดวันปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 15 ส.ค. 2559 จะมีผู้มาลงทะเบียนถึง 5,000 คน