สุรินทร์ - พ่อแม่ญาติพี่น้องที่เมืองช้างบ้านเกิดเฮลั่น! “เจ้าดุ่ย” สินธุ์เพชร กรวยทอง คว้าเหรียญทองแดงยกน้ำหนัก “โอลิมปิกเกมส์ 2016” พ่อแม่ขอบคุณชาวไทยสนับสนุนลูกชายจนประสบผลสำเร็จ ขณะคุณยายที่เลี้ยงดู “เจ้าดุ่ย” มาแต่เล็กลุ้นเป็นลมจนช็อกหมดสติและเสียชีวิตที่ รพ. กลายเป็นบรรยากาศสองขั้วทั้งดีใจและเสียใจ
วันนี้ (8 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นมา บรรยากาศเชียร์ส่งแรงใจให้แก่ “เจ้าดุ่ย” สินธุ์เพชร กรวยทอง นักกีฬายกน้ำหนักชาย ทีมชาติไทย รุ่น 56 กิโลกรัม ที่เข้าชิงเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บ้านเกิด บ้านเลขที่ 291 หมู่ 10 บ้านโพนม่วง คุ้มโนนระเวียงสามัคคี ต.ไพรขลา ต.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เป็นไปอย่างคึกคัก
นายทองดำ กรวยทอง อายุ 56 ปี และนางจันทร์ กรวยทอง อายุ 48 ปี พ่อแม่ของ “เจ้าดุ่ย” สินธุ์เพชร กรวยทอง พร้อมด้วยญาติและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านกว่า 50 คน ต่างมาเฝ้าลุ้นและส่งกำลังใจเชียร์กันอย่างคึกคักตลอดการแข่งขัน ส่วนที่หน้าบ้านนั้นพ่อกับแม่เจ้าดุ่ยนำกล้วยสุกสองเครือมาแขวนแก้เคล็ดเพื่อให้ยกน้ำหนักทำได้ง่ายๆ ผ่านฉลุย
ทันทีที่นักกีฬาทีมชาติไทย รวมถึงสินธุ์เพชร กรวยทอง ทำการแข่งขันเพื่อลุ้นเหรียญ บรรดาญาติพี่น้องและผู้ที่มาร่วมเชียร์ได้ส่งเสียงเชียร์กันอย่างคึกคัก ในขณะที่ นางจันทร์ กรวยทอง แม่ของสินธุ์เพชร ได้เซ่นไหว้บอกกล่าวศาลพระภูมิหน้าบ้าน เพื่อให้ช่วยสินธุ์เพรชประสบผลสำเร็จได้รับเหรียญ และเมื่อรู้ผลทุกคนต่างดีใจกันสุดขีดส่งเสียงเชียร์สนั่น โดยเฉพาะนางจันทร์ผู้เป็นแม่แทบเป็นลม ทุกคนต่างช่วยกันประคองและให้กำลังใจจนอาการดีขึ้น
ในช่วงของการแข่งขันท่าแรกในท่าสแน็ก ทุกคนต่างลุ้นและเชียร์อยู่นั้น จู่ๆ นางสุบิน คงทับ อายุ 82 ปี คุณยายของเจ้าดุ่ยที่เลี้ยงมาตั้งแต่แรกเกิดเป็นลมหมดสติไป ญาติและชาวบ้านที่มาร่วมเชียร์ต่างตกใจและช่วยกันปั๊มหัวใจจนคุณยายฟื้นขึ้นมา ญาติรีบนำส่งโรงพยาบาลชุมพลบุรี แต่ต่อมาประมาณ 1 ชั่วโมง ญาติมาแจ้งว่าคุณยายเสียชีวิตแล้ว ทำให้บรรยากาศการเชียร์หยุดชะงักไปพักหนึ่ง เมื่อทุกคนตั้งสติได้จึงได้ร่วมใจกันเชียร์สินธุ์เพชร หรือเจ้าดุ่ย กันอย่างคึกคักจนถึงท่าสุดท้ายของการแข่งขันและได้รับเหรียญทองแดง ต่างแสดงความดีใจแก่แม่และพ่อ รวมถึงญาติๆ ของเจ้าดุ่ย
นางจันทร์ กรวยทอง แม่สินธุ์เพชร หรือเจ้าดุ่ย เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่ลูกได้รับเหรียญในครั้งนี้ และขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังให้แก่เจ้าดุ่ย และสนับสนุนจนประสบผลสำเร็จ สิ่งที่อยากได้จากส่วนราชการ คือ ถนนเข้าหมู่บ้านที่ยังไม่สะดวก ที่ผ่านมาไม่ได้บนบานอะไรมากมาย เพียงแต่จะเซ่นไหว้ไก่ และหมูศาลปู่ตาและเจ้าที่เจ้าทางเจ้าบ้านเจ้าเรือนเท่านั้น และเมื่อเจ้าดุ่ยเดินทางกลับมาจะไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเมื่อกลับมาบ้านจะทำอาหารที่ลูกชอบทุกอย่างให้กิน โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูที่เจ้าดุ่ยชอบเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม หลังจากจบการแข่งขัน บรรยากาศที่บ้านก็ยังคงมีผู้คนมาแสดงความยินดี ขณะที่ทางบ้านได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องไว้เตรียมต้อนรับ แม้ว่ายายจะเสียชีวิตลงก็ตามญาติๆ มีทั้งดีใจและเสียใจ โดยศพของคุณยายญาติซึ่งจะตั้งศพประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านโพนม่วง ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ต่อไป
