รวบหนุ่มสุพรรณค้ายานรกสั่งจากเหนือ พักปทุมฯ ย้อนขายพิษณุโลก

พิษณุโลก - ตชด.31 ทหาร ทภ.3 จับขบวนการเครือข่ายยาบ้าภาคกลาง ย้อนส่งจำหน่ายขึ้นเหนือ ตามยึดยาบ้าได้ทั้งสิ้นกว่า 1 แสนยา-ไอซ์ 3.5 กก. รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท พร้อมรถอีก จ่อยึดบ้านหรูที่สุพรรณบุรีต่อ

บ่ายวันนี้ (5 ส.ค.) พ.ต.ท.ทวี พิจอมบุตร รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.ตชด.31 เจ้าหน้าที่ทหาร ข่าวกองทัพสนับสนุนศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 (ขกท.ศปก.ทภ.3) ป.ป.ส.ภาค 6 ทหาร ม.พัน 9 ร่วมกันแถลงข่าวที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ถึงผลการจับกุม นายสาธิต หรือโอ๊ด สังข์วรรณ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 289/1 ถ.ขุนแผน ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี

หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่า นายโอ๊ด ลักลอบเข้ามาค้ายาเสพติดในพื้นที่ จึงได้ติดต่อทำการล่อซื้อ จำนวน 20 มัด (40,000 เม็ด) ราคามัดละ 85,000 บาท รวมราคา 1,700,000 บาท และนัดส่งมอบกันที่ปากซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ม.7 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก

เมื่อถึงเวลาพบ นายโอ๊ด ได้ขับรถนิสสันรุ่นเทียน่า สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กด 9637 กรุงเทพมหานคร มาถึงจุดนัดพบพร้อมแสดงตัว ชุดล่อซื้อจึงขอตรวจสอบพบของกลางก็พบว่า เป็นยาเสพติดจริง จึงส่งสัญญาณให้ชุดสนับสนุนการจับกุมบุกชาร์ตจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลาง

นายโอ๊ด ยอมรับสารภาพว่า ยาที่นำมาเป็นของตนเองจริง โดยรับยามาจากสายเหนือ จากนั้นได้ลำเลียงไปพักไว้ที่ห้องพักที่ จ.ปทุมธานี (กอล์ฟวิวอพาร์ตเมนต์ ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี) ก่อนที่นำส่งที่พิษณุโลก

เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง เข้าทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว พบยาบ้าอีก จำนวน 72,000 เม็ด และยาไอซ์ อีก 3.5 กิโลกรัม รวมของกลางที่สามารถทำการตรวจยึดได้เป็นยาบ้า จำนวน 112,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 5,100,000 บาท ยาไอซ์ 3.5 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 10,500,000 บาท

พ.ต.ท.ทวี พิจอมบุตร รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นความร่วมมือหลายฝ่ายทั้ง ป.ป.ส.ภาค 6 และกองทัพ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ยาบ้ามาพักไว้ที่ภาคกลาง และย้อนกลับขึ้นมาจำหน่ายที่ภาคเหนือ

พ.ต.ท.ทวี กล่าวอีกว่า นับจากนี้จะขยายผลไปยังบ้านพักของผู้ต้องหาที่ จ.สุพรรณบุรี อีก 1 หลัง พร้อมยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย