ศูนย์ข่าวศรีราชา-เมืองพัทยา เตรียมจัดระเบียบนำร่องชายหาด พร้อมประกาศล้างบางรถพ่วงข้าง-ต่างด้าว โดยประสานตำรวจ ขนส่ง ตรวจคนเข้าเมือง ร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ หากพบดำเนินคดี 3 เด้ง โทษสูงสุด ชี้ 4 ข้อเรียกร้องผู้ประกอบการไม่รับอย่างเด็ดขาด
จากกรณีที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ดำเนินการกวดขันเพื่อจัดระเบียบด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยา ชายหาดจอมเทียน และโครงการวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ โดยมีการนำกำลังลงพื้นที่เพื่อจับกุม และเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการรถพ่วงข้าง หาบเร่แผงลอย และคนเร่ร่อนขอทานอย่างจริงจัง โดยใช้พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดในการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดรายละ 2,000 บาท
กระทั่งวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่ใช้รถพ่วงข้าง และขายของในที่สาธารณะจำนวนกว่า 100 ราย ได้เดินทางมายังเมืองพัทยา พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ผ่อนปรนนโยบายดังกล่าว โดยตั้งข้อเสนอไว้ 4 ข้อ ได้แก่ การจัดให้มีการค้าขายอย่างถูกต้อง ลดอัตราค่าปรับเหลือ 200-300 บาท ซึ่งมีอายุความ 7 วัน ให้ทำบัตรลงทะเบียนผู้ค้าป้องกันปัญหาต่างด้าว และขอเสียภาษีการค้าตามกฎหมาย ซึ่งเมืองพัทยาได้รับเรื่องไว้เพื่อเสนอต่อผู้เกี่ยวข้องในการพิจารณานั้น
ล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายเศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประธานที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยชายหาดเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อำเภอบางละมุง กำลังทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ สำนักงานขนส่ง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ เพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
โดยในที่ประชุมได้มีการหยิบยกกรณีที่ผู้ประกอบการเรียกร้องให้มีการผ่อนปรน พร้อมข้อเสนอ 4 ข้อขึ้นมาพิจารณา โดยที่ประชุมยังคงยืนตามนโยบายเดิมที่จะกวดขัน และลดปัญหาการประกอบการบนพื้นที่สาธารณะตลอดแนวชายหาดพัทยา จอมเทียน และวอล์กกิ้งสตรีทต่อไป โดยไม่มีการยกเว้น เนื่องจากการประกอบการดังกล่าวถือเป็นความผิดทางกฎหมาย และหากไม่มีผลการปฏิบัติที่ชัดเจนก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมา ปัญหาเหล่านี้มีการร้องเรียนจากประชาชน และนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ไร้ระเบียบ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
นายเศรษฐพล กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ที่จะรับช่วงการการปฏิบัติในการดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากอาชีพเหล่านี้ถือเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ซึ่งแม้ว่าบุคคลต่างด้าวบางรายจะมีใบอนุญาต และมีนายจ้างถูกต้อง แต่จากข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า กลุ่มคนต่างด้าวเหล่านี้มีนายจ้างชาวไทยรับรองการทำงาน โดยนายจ้างเหล่านี้จะเปิดร้านจำหน่ายผลไม้ และหาประโยชน์ด้วยการรับรองคนต่างด้าวเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้มาซื้อสินค้าที่ร้านเพื่อนำออกจำหน่าย จึงถือเป็นการประกอบการในลักษณะนอมินี ซึ่งจะได้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง
ส่วนกรณีของรถพ่วงข้างนั้น ภายหลังการจับกุมตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด ก็จะได้ประสานกับสำนักงานขนส่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีในข้อหาดัดแปลงสภาพรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์อย่างเข้มงวดด้วย
ทั้งนี้ ผลสรุปของการประชุมจะมีการดำเนินการสานต่อนโยบายการจัดระเบียบอย่างเข้มงวด และจริงจังต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ชายหาดพัทยา ชายหาดจอมเทียน และโครงการวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ซึ่งจะใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ พระราชบัญญัติรักษาความสะอาด ซึ่งมีอัตราโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท พระราชบัญญัติรถยนต์ กรณีของการดัดแปลงสภาพรถในอัตราโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท ส่วนกรณีของบุคคลต่างด้าวที่ประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะได้มีการควบคุ มและผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
ขณะที่ปัญหาของม็อบผู้ประกอบการที่มีการนัดหมายจะรวมตัวเพื่อกดดันเมืองพัทยาในวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมนี้ ได้มีการประสานขอสนธิกำลังร่วมจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ กำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ต่อไป