ศูนย์ข่าวศรีราชา-บ.เคอรี่ สยามซีพอร์ต พาชุมชนดูความคืบหน้าการขยายท่าเทียบเรือ ระยะที่ 4 โดยเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เน้นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (2 ส.ค.) นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นประธานการประชุมความคืบหน้าโครงการขยายท่าเทียบเรือ ระยะที่ 4 ของบริษัท เคอรี่ สยามซีพอร์ต จำกัด โดยมี นายศัลย นาคอ่วม ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปสายงานบริหารบริษัท บริษัท เคอรี่ สยามซีพอร์ต จำกัด คณะผู้บริหาร บริษัทที่ปรึกษาโครงการ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครแหลมฉบัง พร้อมคณะกรรมการชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการฯ เข้าร่วมประชุมพร้อมฟังการชี้แจง ณ ห้องประชุมบริษัท เคอรี่ สยามซีพอร์ต จำกัด
นายศัลย นาคอ่วม ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปสายงานบริหารบริษัท เคอรี่ สยามซีพอร์ต จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รับก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาอะไร
ขณะนี้อยู่ในช่วงการตอกเสาเข็ม เทพื้น หล่อเสาปูน ส่วนสะพานนั้นยังไม่เริ่มดำเนินการ โดยคาดว่าในช่วงต้นเดือนมกราคม 2560 นี้พร้อมเริ่มดำเนินการ
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านหรือผู้นำชุมชนมีการท้วงติงเรื่องทิศทางการไหลของน้ำ หลังมีการตอกเสาเข็ม ซึ่งทิศทางการไหลของน้ำมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร ขอให้ทางบริษัทฯ ทำการศึกษาในเรื่องนี้ด้วย นอกจากนั้น พื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่ก่อสร้าง เช่น อ่าวศรีราชา ขอให้ทางบริษัทฯ ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพของน้ำทะเลด้วย เนื่องจากบริเวณอ่าวศรีราชา มีการเลี้ยงหอยแมลงภู่ จำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้ทางบริษัทฯ พร้อมจะดำเนินการตรวจสอบ และจะนำมาชี้แจงให้ทราบในการประชุมครั้งต่อไป
ด้าน นายวรญาณ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างส่วนขยายท่าเทียบเรือ ระยะที่ 4 บริษัท เคอรี่ สยามซีพอร์ต จำกัด นั้น การลงมาดูพื้นที่ในครั้งนี้ของหน่วยงานรัฐ และตัวแทนชาวบ้านเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ ส่วนที่ชาวบ้านมีความห่วงใยปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านนั้น ก็ขอให้ทางบริษัทฯ พยายามชี้แจงและทำความเข้าใจต่อชาวบ้านตลอดระยะเวลาในช่วงการดำเนินงาน
โดยจากฟังการชี้แจงของบริษัทที่ปรึกษา และทางบริษัทฯ ถือว่าได้ดำเนินการตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และข้อกำหนดของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการเน้นย้ำให้บริษัทฯ รักษามาตรฐานดังกล่าวให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โครงการ
“ขอให้ทางบริษัทฯ สื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าของโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที” นายวรญาณ กล่าว
