อ่างทอง/พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ อ่างทอง และ กกต.จัดเวทีให้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ เพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจของประชาชน ขณะที่ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เดินหน้ารณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนออกเสียงประชามติ โดยใช้โครงการผู้ว่าชวนปั่น ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติคึกคัก
วันนี้ (2 ส.ค.) นายวีร์รวุธ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้เป็นประธานเปิดโครงการเวทีเพื่อให้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติและประเด็นคำถามเพิ่มเติม ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 3 โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จังหวัดอ่างทอง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของประชาชนในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 สิงหาคม 2559 นี้ โดยบรรยากาศการแสดงความคิดเห็นไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากมีผู้ร่วมงานบางตา
ทั้งนี้ นายครรขิต เจริญอินทร์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 โดยให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนมาก ตามยุทธศาสตร์ดอกไม้ 65 ล้านบานสะพรั่ง และเป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย นักการเมือง นักศึกษา กลุ่มการเมืองท้องถิ่น พ่อค้า สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินหน้ารณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยใช้โครงการผู้ว่าชวนปั่น ซึ่งจะปั่นทุกวันอังคารของสัปดาห์เพื่อออกกำลังกาย ทั้งนี้ จึงได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติไปด้วย ซึ่งในวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องประชาชนกว่า 100 คน 100 คัน ปั่นระยะทางกว่า 26 กิโลเมตร ทั้งนี้ ได้ร่วมจัดกิจกรรมบริเวณเจดีย์วัดสามปลื้ม ซึ่งเป็นจุดที่พี่น้องประชาชนเดินทางมาทำงาน และจะผ่านเส้นทางนี้จำนวนมาก
จึงได้ใช้โอกาสนี้เพื่อร่วมรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนให้ออกมาร่วมกันใช้สิทธิลงเสียงประชามติ ทั้งนี้ ยังมีการนำช้างจากวังช้างแลเพนียด จำนวน 2 เชือก คือ พลายปีเตอร์ พลายกิ่งแก้ว รวมถึงแต่งกายโขนไทย จากวรรณคดีไทยมาร่วมสร้างสีสัน เชิญชวน เรียกความฮือฮาแกผู้พบเห็น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสนใจให้พี่น้องประชาชนเข้าใจในการลงประชามติ และยังจะได้ร่วมกันออกมาออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม จำนวนมาก
นายประยูร รัตนเสนีย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้โครงการผู้ว่าชวนปั่น เป็นโครงการที่ชักชวนงประชาชนมาร่วมกันออกกำลังกายเพียงเท่านั้น แต่เนื่องจากช่วงนี้ทุกภาคส่วนได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติอย่างเต็มที่ จึงได้ถือโอกาสนี้ใช้กิจกรรมการปั่นจักรยาน สอดแทรกการรณรงค์ออกเสียงประชามติเข้าไปด้วย ก็จะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ เหลือเวลาเพียง 5 วันที่ทุกคนจะต้องออกมาใช้สิทธิออกเสียงตามหน่วยเลือกตั้งที่กำหนดในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 16 อำเภอ รวม 1,036 หน่วย กว่า 8 แสนคน กกต.ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์เป็นประจำทุกวันทุกพื้นที่ พร้อมกับชี้แจงแนวทางปฏิบัติกรณีการจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีสิทธิออกเสียง
โดยเฉพาะในภูมิภาคหากจะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความยากลำบากในการเดินทางต้องได้รับอนุญาต หรือได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตก่อน รวมถึงคนพิการ ทุพพลภาพ หรือผู้ป่วย พร้อมระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการจูงใจ จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
