ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - มือมืดป่วนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่เชียงใหม่ ย่องขโมยบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิจากหน่วยออกเสียงที่อำเภอสันป่าตองและอำเภอแม่ริม รวม 2 จุด เบื้องต้นกรรมการประจำหน่วยเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว พร้อมจัดทำสำเนาชุดใหม่ไปติดตั้งแทน
วันนี้ (2 ส.ค. 59) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่หน่วยออกเสียงประชามติ ที่14 บ้านบ่อก๊าง หมู่ 14 ตำบลแม่ก๊า อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงประชามติที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งไว้สูญหาย โดยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสันป่าตองไว้แล้วเพื่อเป็นหลักฐานและให้ทำการตรวจสอบ
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าการสูญหายดังกล่าวเป็นลักษณะของการถูกขโมยไป และไม่มีร่องรอยของการเกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น ลมพัดหรือไฟไหม้แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ประสานแจ้งให้ฝ่ายทะเบียนอำเภอรับทราบ พร้อมทั้งได้ให้ทางอำเภอดำเนินการตีพิมพ์บัญชีรายชื่อใหม่นำไปติดตั้งตามเดิมแล้ว
โดยนายธนู แสนจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ตำบลแม่ก๊า อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คาดว่าบัญชีรายชื่อที่สูญหายไปในครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 30 ก.ค. 59 ที่ผ่านมา และชาวบ้านมาทราบว่าบัญชีรายชื่อได้หายไปในช่วงสายของวันที่ 31 ก.ค. 59 จึงได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มใดหรือบุคคลใดที่มาขโมยบัญชีรายชื่อดังกล่าวไป
ทั้งนี้ ล่าสุดในวันนี้ (2 ส.ค. 59) ทางอำเภอได้ส่งสำเนาบัญชีรายชื่อมาให้ใหม่แล้ว ซึ่งหน่วยนี้มีผู้มีสิทธิในการออกเสียงประชามติทั้งสิ้น 222 คน โดยคณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียงมีมติว่าจะติดตั้งไว้ที่หน่วยในช่วงกลางวันเพื่อให้ชาวบ้านได้มาตรวจสอบบัญชีรายชื่อ และเมื่อกลางคืนให้ผู้ใหญ่บ้านถอดเก็บรักษาไว้และได้นำมาติดตั้งอีกครั้งในช่วงเช้าจนกว่าจะเสร็จสิ้นการออกเสียงประชามติในครั้งนี้
ด้านนายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งได้รับทราบข้อมูลแล้ว โดยนอกจากที่อำเภอสันป่าตองแล้วยังมีการรายงานบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงประชามติสูญหายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อีกจุดหนึ่งที่บ้านวังมุ่น หมู่ 4 ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นนั้นได้มีการสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ พร้อมทั้งได้มีการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่แล้ว และได้มีการนำบัญชีรายชื่อใหม่ที่ตีพิมพ์ไปติดตั้งอีกครั้ง สำหรับในพื้นที่อื่นๆ พบว่าเหตุการณ์ยังปกติอยู่
