นครปฐม - สาวสวยเจ้าของร้านสักคิ้วนำกระเช้าเข้าขอโทษ ตร.จราจร สภ.เมืองนครปฐม หลังโพสต์ตำหนิการทำงานหลังถูกออกใบสั่ง สารภาพที่โพสต์ข้อความลงไปเพราะด้วยความโกรธ แต่หลังตั้งสติได้แล้วรีบกลับมาลบแต่ไม่ทัน ถูกเพื่อนเข้ามากระหน่ำตำหนิตำรวจ สุดท้ายถูกแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท
วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องงานจราจร สภ.เมือง จ.นครปฐม น.ส.ปราณี ภู่เจริญ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 456/98 ม.1 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ฤทธิรงค์ โชติกลาง รอง ผกก.จร.สภ.เมืองนครปฐม ร.ต.ท.อดุลย์ อาระหัง รองสว.จร. เพื่อขอพบกับ ด.ต.กฤตปนัชย์ ทองยินดี ผบ.หมู่งาน ป. ปฏิบัติหน้าที่งานจราจรเพื่อนำกระเช้า และแสดงการของโทษ
หลังจากได้มีการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทการทำงานผ่านโซเชียลในสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก กรณีที่รถยนต์เก๋งได้ถูกเขียนใบสั่งในข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอดริมถนนตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.59 ที่ผ่านมา
โดยการเข้าพบดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องการกวดขันวินัยจราจรในพื้นที่โดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ว่า มีการจราจรที่ติดขัด และมีการขัดขืนคำสั่งจราจรจำนวนมาก ทำให้เกิดความไม่สะดวกสำหรับผู้ที่จะใช้ยานพาหนะสัญจรบนท้องถนนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาด ซึ่งไม่ได้มีการกลั่นแกล้งประชาชน และพื้นที่ตรงจุดที่มีการออกใบสั่งนั้นเป็นจุดที่มีการเข้มวินัยจราจร
ด้าน ด.ต.กฤตปนัชย์ ทองยินดี ผบ.หมู่งาน ป.ปฏิบัติหน้าที่งานจราจรฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องของการโพสต์ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องการจราจรมีมาหลายครั้ง แต่ในกรณีนี้ตนยืนยันว่ามีการทำหน้าที่ตามหลักการของการกวดขันวินัยจราจร ซึ่งที่ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไปแล้วนั้น
ทั้งนี้ เพื่อที่จะให้เป็นการเตือนกลุ่มผู้ใช้โซเชียลว่า อย่าดูถูกตำรวจ เพราะถึงจะเป็นนายดาบตำรวจ แต่ก็มีความคิด และศึกษาจนจบด้านกฎหมายระดับปริญญาโท มีความคิดเป็นของตนเองและไม่เคยกลั่นแกล้งใคร ตลอดระยะ 20 ปี ที่รับราชการมาก็ยืนยันว่า ภูมิในใจความเป็นตำรวจ ที่ต้องมาทำแบบนี้ไม่ได้ต้องการเงินทองใดๆ แต่ต้องการรักษาศักดิ์ศรีตำรวจที่ทำงานอย่างถูกต้อง และไม่ได้โกรธแค้นใดๆ ที่คู่กรณีมาขอโทษก็ยินดี และขอให้เข้าใจตำรวจด้วย
ส่วน น.ส.ปราณี ภู่เจริญ อายุ 26 ปี บอกว่า ตอนแรกที่โพสต์เพราะมีความโมโหไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้น แต่หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วจึงได้ลบข้อความออกไปแต่ไม่ทันเพราะมีเพื่อนในโซเชียลตามกระหน่ำมาตำหนิการทำงานของตำรวจ และมีการก๊อบปี้ลิงก์ของตนไปแล้ว และไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย จนตอนนี้ตนได้ขึ้นศาลไปแล้ว 1 ครั้ง ในข้อหาหมิ่นประมาท และวันที่ 15 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ศาลนัดตัดสินจึงได้เข้ามาพบคู่กรณี และขอโทษจากใจเพื่อให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี
โดยบรรยากาศการพูดคุยของทั้ง 2 ฝ่ายได้จบลงด้วยดี และบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ก่อนที่ น.ส.ปราณี จะไปลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานในการแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อไป