หนองคาย - ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ตามรวบหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ชนเด็กออทิสติกขณะปั่นจักรยานไปซื้อผัดไทย จนเลือดคั่งในสมองเสียชีวิต เจ้าตัวรับสารภาพวันเกิดเหตุฝนตกถนนลื่น ถูกจักรยานตัดหน้าเบรกแล้วจนเสียหลักรถไถลไปชน ตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยหนี พร้อมสำนึกผิด
จากกรณีเหตุการณ์รถจักรยานยนต์ ชน นายนิติธร รวงทอง หรือน้องเดฟ อายุ 18 ปี ที่เป็นเด็กออทิสติก ปั่นจักรยานไปซื้อผัดไทยบริเวณถนนประจักษ์ศิลปาคม หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองหนองคาย จนร่างกระเด็น เหตุเกิดช่วง 22.30 น. วันที่ 14 ก.ค.59 และน้องเดฟ ได้เสียชีวิตจากอาการเลือกคั่งในสมองในวันถัดมา
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นชายขี่รถจักรยานยนต์คาวาซากิ เคเอสอาร์ สีดำขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชนแล้วหลบหนี ทางญาติได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจติดตามคนก่อเหตุมารับโทษ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้ออกติดตามผู้ก่อเหตุ
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.ท.วิเศษ ลานอุ่น รอง ผกก.(ส.) พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพาณิชย์ รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเศรษฐพงศ์ พลบูรณ์ หรือกรุ๊ป อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 1 ต.กุดดู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมนำรถจักรยานยนต์คาวาซากิ รุ่นเคเอสอาร์ สีขาวดำ ทะเบียน ขงท 639 หนองคาย คันก่อเหตุ ซึ่งมีร่องรอยการเฉี่ยวชน และมีการพ่นสีรถใหม่บริเวณฝาครอบท่อไอเสียรถจากสีขาวเปลี่ยนเป็นสีดำ
พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า จังหวัดหนองคายไม่มีแก๊งเด็กแว้น หรือแก๊งซิ่งจักรยานยนต์กวนเมืองตามที่โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กัน ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนนประจักษ์ศิลปาคม ทั้งก่อน และหลังเกิดเหตุ จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อริมถนนที่สามารถจับใบหน้า นายเศรษฐพงศ์ ได้ เจ้าหน้าที่ติดตามจนทราบว่า นายเศรษฐพงศ์ ทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย
จึงติดตามไปที่ร้าน พบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุจอดอยู่ และเสื้อกีฬาสีน้ำเงินตรงตามภาพในกล้องวงจรปิดถอดทิ้งไว้อยู่ภายในห้อง แต่นายเศรษฐพงศ์ ได้หลบหนีกลับบ้านที่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ไปแล้ว พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. จึงนำกำลังไปติดตามจับกุม นายเศรษฐพงศ์ ได้ที่บ้านพัก โดย นายเศรษฐพงศ์ ไม่ได้ขัดขืน พร้อมยอมรับว่าตนคือคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ชนจักรยานในคลิปจริง
จากการสอบสวน นายเศรษฐพงศ์ ให้การรับสารภาพด้วยท่าทางสำนึกผิด พร้อมบอกว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น. มีคนใช้ให้ตนไปซื้อบุหรี่ ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมา ซึ่งในช่วงนั้นฝนเพิ่งหยุดตกทำให้ถนนลื่น เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็มีรถจักรยานขี่ตัดหน้า ตนเห็นในระยะกระชั้นชิด ตนตกใจเบรกรถจนเสียหลักล้ม และไถลไปกับพื้นถนนทำให้ชนเข้ากับรถจักรยานที่ผู้ตายขี่มาอย่างจัง
ด้วยความตกใจ และไม่คิดว่าคนขี่จักรยานไม่เป็นอะไรมากจึงรีบขี่รถหลบหนีไป พอมาเห็นจากข่าวว่าคนขี่จักรยานเสียชีวิต และยังเป็นเด็กออทิสติก ตนเกิดความกลัวมากจึงหลบหนีกลับไปที่บ้าน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับขี่รถจักรยานยนต์โดยประมาท เฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทรัพย์สินเสียหาย และหลบหนีไม่ช่วยเหลือแจ้งเหตุ พร้อมคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป