หนองคาย - ตม.หนองคายสนธิกำลังกับตำรวจภูธรเมืองหนองคายจับขบวนการค้ามนุษย์ชาวลาวได้ 1 คน อีกคนหลบหนีข้ามลาวไปได้หวุดหวิด ช่วยเหยื่อหญิงชาวลาวอายุเพียง 15 ปี ได้ 2 คน
วันนี้ (27 ก.ค. 59) ที่ห้องประชุมด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.จว.หนองคาย, พ.ต.ต.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร์ สว.ตม.จว.หนองคาย, ร้อยเอก จำนงค์ แสงกุดเรือ นายทหารยุทธการกองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย และทหารจากกองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย แถลงข่าวจับกุมนางพอนทิพ วงสา อายุ 28 ปี ชาวลาว ข้อหาเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และค้ามนุษย์
การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ ตม.หนองคายได้สืบสวนติดตามเครือข่ายค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จนทราบแน่ชัดว่ายังคงมีกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก โดยใช้วิธีการนำเด็กหญิงชาวลาวมาพักไว้ที่บ้านเช่าในเขตเทศบาลเมืองหนองคายครั้งละ 4-5 คน แล้วส่งเด็กไปตามโรงแรมและรีสอร์ต โดยมีนางตุ่นคำ วงสา หรืออั๋น และนางพอนทิพ วงสา หรือแนต สองพี่น้องชาวลาว ซึ่งเป็นทอม เป็นเอเยนต์
จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าจับกุม โดยในวันนี้ (27 ก.ค. 59) เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ ตม.หนองคายได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทหาร วางแผนล่อซื้อโดยใช้สายลับพรางตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปพักในโรงแรมริมแม่น้ำโขงแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย จากนั้นได้ติดต่อเอเยนต์ให้จัดหาเด็กมาบริการทางเพศ ต่อมามีหญิงขับขี่รถจักรยานยนต์นำเด็ก 2 คนมาส่งให้สายลับ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้ พร้อมนำตัวมาทำการสอบสวนที่ ตม.จังหวัดหนองคาย
เบื้องต้นพบว่าหญิงชาวลาว 2 คนมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ส่วนอีกคนที่เจ้าหน้าที่ขยายผลเข้าไปตรวจค้นในบ้านเช่าอายุ 26 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมได้สอบประวัติ ตรวจมวลกระดูกเพื่อให้ความคุ้มครองช่วยเหลือหญิงสาวต่อไป ส่วนนางพอนทิพ ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานและพยานชัดเจนที่จะเอาผิดได้ ส่วนนางตุ่นคำ ผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่เป็นคนไปติดต่อหลอกหญิงชาวลาวตามบ้านให้เข้ามาค้าประเวณีนั้นข้ามไป สปป.ลาว จึงรอดการจับกุมไปได้อย่างหวุดหวิด