พระนครศรีอยุธยา - ผบก.พระนครศรีอยุธยา สอบเครียด 5 ผู้ต้องหาร่วมกันให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติดยิง “ด.ต.แก่งคอย” เสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ปิดล้อมจับกุม ขณะที่ตำรวจยังตามล่าตัวผู้ต้องหาปืนโหดรายนี้ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี ด.ต.อรรณพ เครืออนันต์ ผบ.หมู่งาน ป.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถูก นายประนอม สีสุข อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดยิงเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการวางแผนจับกุมตัว นายประนอม ผู้ต้องหาที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ม.2 ต.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
ล่าสุด วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.วังน้อย ได้ร่วมกันสอบสวน 5 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันให้การช่วยเหลือ นายประนอม สีสุข ผู้ต้องหาในการหลบหนี ประกอบด้วย 1.นายวิเชตุ เณรศิริ อายุ 50 ปี 2.นายไพโรจน์ อินทา อายุ 46 ปี 3.นางพิมพิไล ไชยภูมิ อายุ 45 ปี 4.นางวรรณวิภา มุ่งปั่นกลาง อายุ 21 ปี และ 5.นายจิรศักดิ์ รื่นกลิ่น อายุ 33 ปี
พล.ต.ต.สุทธิ กล่าวว่า หลังก่อเหตุ นายประนอม ได้หลบหนีไปหา นายวิเชตุ ที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี นอนค้าง 1 คืน พอรุ่งเช้า นายวิเชตุ ได้พา นายประนอม ไปส่งให้ นายไพโรจน์ และนางพิมพิไล สองสามีภรรยา ที่ อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี และพาไปส่งให้ นายจิรศักดิ์ นอนพัก 1 คืน จากนั้น นายประนอม ได้ให้ นายจิรศักดิ์ พาไปส่งที่บ้านของ นายสมพร ไชยภูมิ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.หมวกเหล็ก ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนแล้ว เพราะตรวจค้นในบ้านพักพบอาวุธปืนจำนวนมาก ถูกดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี
หลังจากถูกเจ้าหน้าที่กดดัน นายสมพร ได้ให้ น.ส.วรรวิภา มุ่งปั่นกลาง อายุ 21 ปีภรรยา ขับรถยนต์กระบะไปส่ง นายประนอม ไว้ที่เชิงเขา โดย นายประนอม บอกว่าจะกลับบ้านชะอม ใน อ.แก่งคอย เพราะมีบ้านญาติอยู่ที่นั่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นแล้ว แต่ นายประนอม ไหวทันได้หลบหนีไปได้
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดเคยรู้จักกับ นายประนอม มาก่อน เมื่อนายประนอม ขอความช่วยเหลือจึงได้ช่วยในการหลบหนี ทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีตามาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อให้ถูกจับกุม ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ส่วนการติดตามไล่ล่าตัว นายประนอม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือในการหลบหนี ให้ที่ซ่อนตัวจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด” พล.ต.ต.สุทธิ กล่าว