ลำพูน - กกต.ลำพูนนำรายชื่อผู้มีสิทธิลงประชามติไปติดแทนชุดเดิมที่ถูกมือดีฉกหายไป พร้อมเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทั้งมือฉกและผู้ส่งจดหมายบิดเบือน เบื้องต้นได้ลายนิ้วมือแล้ว
จากกรณีที่เมื่อคืนวันที่ 23 ก.ค. 59 ที่ผ่านมาที่บริเวณหน่วยออกเสียงประชามติ หน่วยที่ 3 บ้านจำขี้มด หมู่ที่ 2 ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน บัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติได้ถูกคนร้ายขโมยฉกไปไม่ทราบร่องรอยนั้น
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทหารนำโดย พ.อ.พงศ์มิตร ปินปันคง ผบ.บก.ร้อย.รส.ที่ 2 (ร.7 พัน.1) ได้นำกำลังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำพูน ได้ออกตรวจสอบก็พบว่าบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติหายไปจำนวน 1 ชุด ซึ่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวมีรายชื่อผู้มีสิทธิจำนวน 523 ราย
ความคืบหน้าขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดลำพูนได้นำบัญชีรายชื่อชุดใหม่ไปติดตั้งทดแทนแล้ว ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเวรยามพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจออกตรวจตราทุกชั่วโมง ส่วนการดำเนินคดีนั้นตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรายมือแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้อาจได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่นที่กลุ่มบุคคลสองฝ่ายไม่ถูกกันนั้น ทางนางพิมประไพ ดิชวงศ์ ผอ.กกต.กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังชี้ชัดไม่ได้แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน ส่วนการดำเนินคดีผู้ที่ส่งจดหมายบิดเบือนนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของทางกฎหมายต่อไป
จากกรณีที่เมื่อคืนวันที่ 23 ก.ค. 59 ที่ผ่านมาที่บริเวณหน่วยออกเสียงประชามติ หน่วยที่ 3 บ้านจำขี้มด หมู่ที่ 2 ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน บัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติได้ถูกคนร้ายขโมยฉกไปไม่ทราบร่องรอยนั้น
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทหารนำโดย พ.อ.พงศ์มิตร ปินปันคง ผบ.บก.ร้อย.รส.ที่ 2 (ร.7 พัน.1) ได้นำกำลังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำพูน ได้ออกตรวจสอบก็พบว่าบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติหายไปจำนวน 1 ชุด ซึ่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวมีรายชื่อผู้มีสิทธิจำนวน 523 ราย
ความคืบหน้าขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดลำพูนได้นำบัญชีรายชื่อชุดใหม่ไปติดตั้งทดแทนแล้ว ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเวรยามพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจออกตรวจตราทุกชั่วโมง ส่วนการดำเนินคดีนั้นตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรายมือแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้อาจได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่นที่กลุ่มบุคคลสองฝ่ายไม่ถูกกันนั้น ทางนางพิมประไพ ดิชวงศ์ ผอ.กกต.กล่าวว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังชี้ชัดไม่ได้แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน ส่วนการดำเนินคดีผู้ที่ส่งจดหมายบิดเบือนนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของทางกฎหมายต่อไป
