ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจพัทยาร่อนหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้การสืบฯ ภาค ให้ส่งตัว “สารวัตรกาโต้” พร้อมพวกมารับทราบข้อกล่าวหา หลังนำกำลังบุกจับ “นางฟ้าคาราโอเกะ” พร้อมตั้งข้อหาค้าประเวณี ด้านผู้การเมืองชล ยันไม่ได้โทร.กดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รับเจ้าของนางฟ้าคาราโอเกะโทร.หาเอง
สืบเนื่องจาก น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล อายุ 36 ปี เจ้าร้านคาราโอเกะ “นางฟ้าคาราโอเกะ” ถนนพัทยาสาย 3 หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.พิทักษ์ เนินแสง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1.บก.สส.ภาค 2 และ ร.ต.ท.จตุภุมิ ลิ้มศิริวัฒนกุล สังกัด กก 1.บก.สส.ภาค 2 พร้อมพวกอีก 5 คน หลังจากที่เข้าตรวจค้น และพยายามแจ้งข้อหาค้าประเวณี และไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ ซึ่ง น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล จึงแจ้งความกลับในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้รายงานเหตุการณ์ไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จนมีการสั่งสอบข้อเท็จจริงแล้ว
พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีหนังสือพิมพ์และทีวีบางช่องไปลงข่าวทำนองว่า ตนได้โทรศัพท์ส่วนตัวมาที่ พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1 บก.สส.ภาค 2 เหมือนเป็นการกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 2 ทำงานอย่างไม่เต็มที่นั้น ตนขอบอกเป็นการเข้าใจผิด เพราะวันนี้ตนได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของคาราโอเกะแห่งนี้เพื่อทำการร้องเรียนว่า ถูกตำรวจรังแกโดยไม่รู้จักกันมาก่อน
ตนคิดว่า เจ้าของคาราโอเกะแห่งนี้คงได้เบอร์โทรศัพท์ของตนมาจากแผ่นโปสเตอร์ใบหน้าและเบอร์โทรศัพท์ติดไว้ตามโรงพักต่างๆ ทั่ว จ.ชลบุรี โดนเขียนข้อความไว้ว่า หากใครได้รับความเดือดร้อนก็ให้โทร.มาตามเบอร์ที่แจ้ง ซึ่งหลังจากที่ตนได้รับโทรศัพท์แล้วตนก็ได้โทรศัพท์แจ้งไปที่ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.พัทยา ให้ไปตรวจสอบดูว่า เรื่องราวเป็นเช่นไรตามสัญชาตญาณของตำรวจ ไม่ใช่เป็นการกดดัน หรือช่วยกันทั้งสิ้น
ต่อมา ก็ได้ทราบข่าวจาก ผกก.สภ.พัทยา ว่า เจ้าของคาราโอเกะไปแจ้งความดำเนินคดีต่อ ตร.ทั้งหมด ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หลังจากมีการแจ้งความดำเนินคดี ทาง พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จึงได้มีหนังสือให้ ตร.ทั้งหมดที่ถูกแจ้งความ ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตำรวจภูธรภาค 2 ไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ส่วนทางคดีอาญาก็ว่ากันไปตามการดำเนินคดีข้อเท็จจริง
โดยให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย หากคดีเสร็จสิ้นไม่มีความผิด ตร.ทั้งหมด ก็จะได้กลับเข้าทำงานตามเดิมตนยืนยัน ไม่ได้รู้จักเจ้าของคาราโอเกะอย่างแน่นอน ไม่ได้โทรศัพท์ไปกดดันตำรวจอย่างที่มีข่าวออกไป ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยามีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้การสืบฯ ภาคให้ส่งตัว “สารวัตรกาโต้” พร้อมพวกมารับทราบข้อกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยามีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้การสืบฯ ภาค ให้ส่งตัว “สารวัตรกาโต้” พร้อมพวกมารับทราบข้อกว่าวหา ภายหลังจาก น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล อายุ 36 ปี อาชีพนักธุรกิจ และ น.ส.ปะระนิดา ไชยนาพาณิชย์กุล อายุ 22 ปี แอร์โฮสเตสฝึกงานประจำสายการบินไทย สองพี่น้องเจ้าร้าน “นางฟ้าคาราโอเกะ” เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.พิทักษ์ เนินแสง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต หรือสารวัตรกาโต้ สว.กก.1.บก.สส.ภ.2 และ ร.ต.ท.จตุภูมิ ลิ้มศิริวัฒนกุล รอง สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 พร้อมพวกรวม 6 คน
หลังจากทั้งหมดได้เข้าตรวจค้นที่ร้านนางฟ้าคาราโอเกะ ซอยเก้าไร่ ถนนพัทยาสาย 3 ย่านพัทยากลาง พร้อมกับแจ้งข้อหาค้าประเวณี และไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ
อีกทั้งยังข่มขู่ผู้เสียหายให้เกิดความหวาดกลัวตื่นตกใจ มิหนำซ้ำยังพูดติดตลกว่าจะสั่งปลด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ฐานให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาทั้ง 2 นายโทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้ทำบันทึกข้อความด่วนที่สุดที่ 0017(ชบ.) 5 (375) / 2559 ลงวันที่ 17 ก.ค.59 เรื่องส่งตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจในปกครองมารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน ส่งไปยัง พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธณะ ผบก.สส.ภ.2 เพื่อให้ส่งตัว พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 กับ ร.ต.ท.จตุภูมิ ลิ้มศิริวัฒนกุล รอง สว.กก.1 บก.สส.ภ.2 พร้อมพวกรวม 6 มาพบ พ.ต.อ.ออมสิน สุขการค้า รอง ผกก.สอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ก่อนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พร้อมกับส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.พิจารณาเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ไปหา พ.ต.ท.นราวุธ กับ พ.ต.อ.ชาตรี สุขสิริ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.2 ปรากฏว่า ไม่มีคนรับสายแต่อย่างใด