เชียงใหม่ - ตำรวจภูธรภาค 5 ตามรวบแก๊งล้วงกระเป๋าฉกทรัพย์ชาวกัมพูชา-เวียดนาม เช่าเกสต์เฮาส์กลางเชียงใหม่ รวมหัวล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวบนวัดพระธาตุดอยสุเทพ วันเดียว 3 รายซ้อน ก่อนหนีไปกบดานที่ชัยภูมิ ก่อนหิ้วตัวดำเนินคดีท้องที่เกิดเหตุ เผยยังหนีรอดไปได้อีก 1 ราย
วันนี้ (15 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับตำรวจสืบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เชียงใหม่ ติดตามจับกุม นาง Thi Thu Trinh ชาวเวียดนาม และนายเฮง จันทรา ชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ ท้องที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เชียงใหม่ พร้อมของกลางของผู้เสียหายหลายรายการ ทั้งโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง หนังสือเดินทางของผู้เสียหาย ได้ที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อเย็นวานนี้ (14 ก.ค.) ก่อนนำตัวกลับมาแถลงข่าว พร้อมสอบสวนขยายผลดำเนินคดีท้องที่เกิดเหตุในวันนี้
การจับกุมมีขึ้นหลังตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวถูกล้วงกระเป๋าบนวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ถึง 3 ราย รายแรกคือ น.ส.ลิน ซาว ชาวจีน เงินสดหายไปหมื่นกว่าบาท พร้อมบัตรเครดิต 3 ใบ รายที่ 2 นางนางอู๋ หยางมินฉาน ชาวจีน ถูกล้วงเอาหนังสือเดินทาง จำนวน 2 เล่ม เงินสดไทยจำนวนหนึ่ง บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 1 ใบ รายสุดท้ายคือ นางหลิน กอนซาเลซ จาคอบ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 จำนวน 2 เครื่องหายไป
ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายเป็นกลุ่มคนชาวเวียดนาม จำนวน 3 คน เข้ามาแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว ก่อนจะเดินประกบเหยื่อแล้วล้วงกระเป๋า โดยทำงานเป็นทีม หลังก่อเหตุคนร้ายได้นำกระเป๋าเงินของนักท่องเที่ยวไปทิ้งไว้ที่ถังขยะด้านล่างวัด และนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดซื้อโทรศัพท์ที่ห้างสรรพสินค้า 2 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่
เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ และติดตามจับกุม ซึ่งพบว่า กลุ่มคนร้ายมาเช่าเกสต์เฮาส์ย่านถนนมูลเมือง ในตัวเมืองเชียงใหม่ พักอาศัย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แต่คนร้ายได้ย้ายออกไปแล้ว จึงประสานทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ พบว่า คนร้ายยังไม่ได้มีการเดินทางออกนอกประเทศ
แต่ไปกบดานอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิตย์ จ.ชัยภูมิ จึงเดินทางไปจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมทั้งควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีกรายหลบหนีไปได้
