สุรินทร์ - เสียชีวิตแล้ว! เหยื่อแก๊งโจ๋อันธพาลปาหินที่รัตนบุรี แม่ผู้ตายวอนตำรวจเอาผิดให้ถึงที่สุด ด้าน ผกก.สภ.รัตนบุรีเผยเร่งติดตามลากคอวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุอีกร่วม 20 คนมาดำเนินคดี
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นดักปาหินใส่รถจักรยานยนต์ที่ผ่านไปมาบริเวณริมถนนสายรัตนบุรี-ท่าตูม กม.ที่ 15 บ้านหนองกา ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ทำให้ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปมาเสียหลักล้มก่อนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 รายเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค. 59 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายตันติกร เสนศร อายุ 25 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ อาการสาหัส แพทย์ระบุสมองตาย แต่ยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ และนายวินัย ชูรส อายุ 15 ปี เป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ พ้นขีดอันตรายหลังผ่าตัดสมอง รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์
ต่อมาวันรุ่งขึ้น (11 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 12 ราย ในจำนวนนี้มี 10 รายเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี จากการสอบสวนทราบว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ไปเที่ยวดูวงดนตรีหมอลำในงานบวชที่บ้านหนองคู ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุกว่า 20 คนได้มีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นในงาน ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้กลับมาดักรออยู่ริมถนนประมาณกว่า 20 คน
เมื่อผู้เสียหายขี่จักรยานยนต์มาถึงจุดเกิดเหตุได้ช่วยกันรุมปาก้อนหินใส่จนรถล้ม ก่อนจะเข้าไปทำร้าย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 รายดังกล่าว และหนึ่งในจำนวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ใช้ท่อนไม้ตีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 รายจริง
ล่าสุดในช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ค. 59 ที่ผ่านมา 1 ใน 2 ผู้เคราะห์ร้าย คือนายตันติกร เสนศร อายุ 25 ปี ได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งครอบครัวและญาติๆ ได้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหนองคู ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ท่ามกลางชาวบ้านที่มาร่วมงานศพด้วยความเศร้าสลด
ขณะที่ พ.ต.อ.มงคล ภูวประภาชาติ ผกก.สภ.รัตนบุรี ได้ให้ตัวแทนนำพวงหรีดไปมอบให้ นางทองมา เสนศร อายุ 52 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากจะดำเนินคดีให้อย่างเป็นธรรม และจะเร่งสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามวัยรุ่นที่เหลือที่ร่วมกันก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นางทองมา เสนศร อายุ 52 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูก 3 คน ผู้ตายเป็นคนกลางและมีนิสัยดี เป็นที่รักของเพื่อนฝูง ไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่วันที่เกิดเหตุผู้ตายได้ไปเที่ยวงานหมอลำกับเพื่อนๆ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งเพื่อนที่มาเที่ยวด้วยกัน ระหว่างผ่านบ้านที่กลุ่มวัยรุ่นดักรอจึงถูกทำร้ายดังกล่าว ตนต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด รวมทั้งวัยรุ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.มงคล ภูวประภาชาติ ผกก.สภ.รัตนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ที่บ้านร้างข้างถนน ภายในหมู่บ้านสำโรง ต.รัตนบุรี ได้ 12 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหา 3 คนที่ยอมรับว่าลงมือ ประกอบด้วย นายนครินทร์ ช่อรัมย์ อายุ 18 ปี, นายอชิตะ บุญล้อม อายุ 18 ปี และอีก 1 รายเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ทั้งหมดเป็นวัยรุ่นบ้านหนองกา ต.รัตนบุรี
ซึ่งหลังจากผู้เสียหายเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้แจ้งข้อกล่าวหาที่หนักขึ้นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ส่วนเยาวชนอีก 9 รายยังปฏิเสธข้อกล่าวหาอยู่ นอกจากนี้ยังมีเยาวชนที่เหลือ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 20 คน ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนติดตามตัวมาสอบปากคำอยู่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้รวมตัวกัน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านสำโรง และ บ.หนองกา ต.รัตนบุรี มั่วสุมกัน และเป็นคู่อริกันกับวัยรุ่นบ้านหนองคู ต.น้ำเขียว ซึ่งไม่ถูกกันกับวัยรุ่นในเขตเทศบาลตำบลรัตนบุรี
โดยกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเป็นหมู่บ้านที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง บ.หนองคู กับเขตเทศบาลตำบลรัตนบุรี เมื่อวัยรุ่นจาก บ.หนองคู และวัยรุ่นจากเขตเทศบาลตำบลรัตนบุรีขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านก็มักจะดักทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง และล่าสุดเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งปราบปรามสลายกลุ่มวัยรุ่นในเชิงรุกแล้ว เพื่อไม่ให้กลับมารวมตัวก่อเหตุอีก
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจดูสภาพภายในบ้านร้าง ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มวัยรุ่นมักชอบไปรวมกลุ่มมั่วสุมกันเป็นประจำ พบเศษขวดเหล้าและกระป๋องกาวตกอยู่บนพื้นในบ้านร้างเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ที่ผ่านไปมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า วัยรุ่นมักจะมารวมตัวกันที่บ้านร้างดังกล่าว และมักจะก่อเหตุขว้างปาหินและไม้ใส่วัยรุ่นที่ผ่านไปมา รวมทั้งชาวบ้านที่สัญจรผ่านด้วยเช่นกันตลอดระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา