xs
xsm
sm
md
lg

แม่ “อนันต์ อัศวโภคิน” ศิษย์เอกธรรมกาย ขอคืนที่ดินให้หลวง 1,263 ไร่ ส.ป.ก.กาญจน์เล็งมอบใบประกาศยกย่อง (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - แม่ “อนันต์ อัศวโภคิน” เจ้าของบริษัทเครือ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” และศิษย์เอกธรรมกาย เข้าพบ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ประกาศคืนที่ดิน 1,263 ไร่ ให้รัฐนำไปจัดสรรให้คนจน พร้อมยอมรับผิดเหตุก่อนซื้อในยุคก่อนไม่ได้ตรวจสอบ ยันซื้อจริง 3 พันไร่ รวม 36 ล้านบาท แต่ถูกกลุ่มผู้กว้างขวาง รวมทั้งนายหน้ารุมโกง ด้าน ส.ป.ก.เตรียมมอบประกาศเกียรติบัตรยกย่องเป็นตัวอย่างครั้งแรกของประเทศ



จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประกาศใช้มาตรา 44 คำสั่งที่ 36/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย คำสั่งดังกล่าวประกาศใช้เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงการดำเนินการตามมาตรา 44 หลังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.จากผู้ครอบครองรายใหญ่ผิดกฎหมายเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป ในพื้นที่เป้าหมาย 429 แปลง เนื้อที่ 432,765 ไร่ รวม 25 จังหวัด ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ใน 25 จังหวัดที่ต้องดำเนินการ โดยมีเป้าหมาย 14 แปลง ใน 4 อำเภอ รวมเนื้อที่ 14,927 ไร่ และ 1 ใน 14 แปลงเป็นของ นางเพียงใจ หาญพาณิชย์ อายุ 92 ปี แม่ของ นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เศรษฐีระดับแสนล้าน และเป็นลูกศิษย์คนสำคัญของวัดพระธรรมกายคนหนึ่ง

ต่อมา วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ ร.29 ได้นำป้ายไปติดหน้าแปลงแสดงกรรมสิทธิ์เนื้อที่ จำนวน 1,263 ไร่ ที่ติดกับถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวัชรินทร์ ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนว่า ถ้าใครครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.มากกว่า 500 ไร่ขึ้น หากยอมส่งมอบคืนพื้นที่ให้แก่ ส.ป.ก. ส.ป.ก.จังหวัดกาญจนบุรี จะมอบประกาศเกียรติคุณถึงคุณงามความดีที่มีต่อประเทศชาติ

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (13 ก.ค.) ขณะที่ นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นางรจนพรรณ ณรงค์อินทร์ นิติกร ส.ป.ก.กาญจนบุรี นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 900 ไร่ ที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีสมาคมชื่อดังแห่งหนึ่งเข้ายึดพื้นที่ และมีการทำข้อตกลงกับชาวบ้ายรายหนึ่ง รวมเนื้อที่ขายให้แก่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ โดยข้อตกลงทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2552 ครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี เดินทางไปด้วย เนื่องจากต้องเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ จำนวน 450 ไร่ ที่ติดกับเขตวัดป่าหลวงตาบัวฯ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินราชพัสดุ อยู่ในความดูแลของจังหวัดทหารบกเดิม ซึ่งปัจจุบันเป็นมณฑลทหารบกที่ 17 แต่มีประชาชนร้องเรียนว่ามีผู้บุกรุกยึดถือครอบครอง

ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 11.15 น. ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่กำลังไปตรวจสอบที่ดิน จำนวน 450 ไร่นั้น ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.กาญจนบุรีว่า นางเพียงใจ หาญพาณิชย์ พร้อมด้วย นางศศิธร ทองถวิล เลขาส่วนตัว มารอพบที่สำนักงาน ส.ป.ก. ดังนั้น นายวัชรินทร์ จึงรีบเดินทางกลับที่ทำงานเพื่อให้การต้อนรับ โดยคณะสื่อมวลชนได้ติดตามไปรอทำข่าวด้วย

เมื่อไปถึงพบว่า นางเพียงใจ พร้อมเลขาส่วนตัว และคณะนั่งรออยู่ที่เก้าอี้นั่งเล่นด้านหลังสำนักงาน นายวัชรินทร์ จึงให้เจ้าหน้าที่ไปตาม และมีการพูดคุยกันที่บริหารสำนักงานชั้นล่าง เนื่องจากนางเพียงใจ อายุมากแล้ว จึงไม่สะดวกที่จะเดินขึ้นบันไดชั้นที่ 2 โดย นายวัชรินทร์ ขอให้สื่อมวลชนรออยู่ที่ห้องประชุมชั้น 2 และจะขอเจรจากับนางเพียงใจ ด้วยตนเองว่าจะอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพทำข่าวหรือไม่ ไม่นานนัก นายวัชรินทร์ ก็มาแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่า นางเพียงใจ พร้อม และยินดีที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน

โดย นางเพียงใจ หาญพาณิชย์ ถึงแม้จะมีอายุถึง 92 ปีแล้วก็ตาม แต่ดูท่าทางสุขภาพยังแข็งแรงและยิ้มแย้มแจ่มใส มีเพียงปัญหาทางหูเท่านั้นที่ไม่ค่อยได้ยิน ทำให้เลขาส่วนตัว และผู้ติดตามคอยกระซิบข้างหูเพื่อให้รู้คำถามของสื่อมวลชน โดย นางเพียงใจ เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวซื้อเมื่อปี 2532 ซึ่งอยู่ในยุคที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยนั้นที่ดินบูมมาก ก่อนที่จะซื้อยอมรับเลยว่าสมัยนั้นไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของรัฐ

ครั้งนั้นมีกลุ่มนายหน้ามาเสนอขายที่ดินให้ ที่จริงแล้วไม่ใช่เนื้อที่ 1,263 ไร่ แต่เนื้อที่จริงที่ซื้อคือ จำนวน 3,000 ไร่โดยซื้อมาในราคาไร่ละ 120,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 36,000,000 บาท ต่อมา กลุ่มนายหน้า รวมทั้งกลุ่มผู้กว้างขวางในพื้นที่ยุคสมัยนั้นได้มีการข่มขู่จะเอาชีวิตและเข้ามาโกงเอาที่ดินไปเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเหลือเพียงแค่ 1,263 ไร่ จึงตัดสินใจนำป้ายมาปักเป็นที่ส่วนบุคคลเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาบุกรุกที่ดินอีก ซึ่งทั้งหมดก็ผ่านมาหลายปีแล้ว

อีกสาเหตุหนึ่งที่ตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว เนื่องจากสมัยก่อนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำป้ายมาปักโฆษณาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเอาไว้ว่า “แดนมหัศจรรย์” ถนนติดกับแปลงที่ดิน เป็นถนนที่ค่อนข้างที่จะอัศจรรย์ คือ หากนำรถมาจอดบนถนนหันหน้าไปทางภูเขาที่เป็นเนินสูง รถก็จะไหลขึ้นไปอย่างน่าแปลกใจ จึงถือได้ว่าในยุคสมัยนั้นหากใครพบก็จะถือว่าเป็นความอัศจรรย์จริงๆ และการซื้อที่ดินก็เพื่อต้องการทำหมู่บ้าน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สร้าง

นางเพียงใจ หาญพาณิชย์ เปิดเผยต่อว่า หลังจากที่ทราบว่าที่ดินที่ซื้อมานั้นเป็นที่ดินของ ส.ป.ก.ซึ่งถือว่าเป็นที่ดินของรัฐ ก็ขอยอมรับผิดเองที่ไม่ได้มีการตรวจสอบให้ละเอียดว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินของรัฐ แต่ขณะนี้ตนก็มีความยินดีที่จะส่งมอบคืนให้แก่หน่วยงานรัฐด้วยความเต็มใจ การที่มาพบ ส.ป.ก.ในวันนี้ จุดประสงค์ก็คือ ต้องการมอบที่ดินให้แก่ ส.ป.ก.โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น

นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากการบอกเล่าของ นางเพียงใจ ทราบว่าเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2532 คนในพื้นที่รวมทั้งกำนัน และผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้นมาหลอกขายที่ดินให้แก่ท่าน โดยที่ นางเพียงใจ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของรัฐ เพราะฉะนั้นการที่ท่านมาในวันนี้จึงถือได้ว่ามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ และได้บอกแก่ตนว่าในเมื่อเป็นที่ดินของรัฐก็ยินดีที่จะคืนที่ดินทั้งหมดให้แก่ทาง ส.ป.ก.

ดังนั้น ตนในฐานะเป็นปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ที่เคยประกาศผ่านสื่อมวลชลไปก่อนหน้านี้ว่า ถ้าผู้ครอบครองที่ดินมีจิตรกุศล หรือใจบุญที่ต้องการบริจาคที่กลับคืนมาให้แก่รัฐ เพราะไม่รู้มาก่อนว่าเป็นที่ดินของรัฐเนื่องจากถูกหลอกให้ซื้อ เมื่อ นางเพียงใจ ยินดีที่จะคืนพื้นที่ให้ ส.ป.ก. ตนก็จะทำเกียรติบัตรเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศว่าเรายังมีคนดีของประเทศอยู่ ซึ่งขณะนั้น น.ส.เพียงใจ ซื้อที่มาเป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท แต่ก็ยังยินดีที่จะคืนที่ดินให้แก่ประเทศชาติ เพื่อให้ ส.ป.ก.นำมาจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ได้มีที่ดินทำกินต่อไป ซึ่งตนจะรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น